แรงกดยังมี! กูรูขีดเส้นหุ้นไทย 1400 จุด ยืนได้แกร่งลุ้นไปต่อ

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(30 ต.ค.66) อยู่ที่ 1,395.85 จุด เพิ่มขึ้น 7.62 จุด คิดเป็น +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 36,755 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,398.04 จุด และลดลงต่ำสุด 1,381.21 จุด 

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     1. DELTA ปิดที่ 81.25 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,982.58 ลบ.

     2. EA ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,786.65 ลบ.

     3. KBANK ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,659 ลบ.

     4. SCB ปิดที่ 99 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,602.76 ลบ.

     5. PSP ปิดที่ 3.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.54 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,372.75 ลบ.

รอประชุมเฟด

     นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับการประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย CME FED Watch ให้น้ำหนัก 99.9% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยระดับเดิม 

     อย่างไรก็ตามมองปัจจัยสำคัญมากกว่าเรื่องของดอกเบี้ย ได้แก่ ถ้อยแถลงของ FED เนื่องจากการแข็งแกร่งของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและเงินเฟ้อยังห่างไกล จากเป้าหมายของ FED จึงมีความเสี่ยงที่ประธาน FED อาจยังส่งสัญญาณเชิงเข้มงวดและจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น 

     รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยช่วงถัดไป เนื่องจากตาม Dot Plot FED ยังส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่ยังสวนทางกับตลาดที่ประเมินว่าจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้ว ถัดมารอติดตามภาคแรงงานในสหรัฐฯในคืนวันศุกร์กับการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.82 แสนราย และ 3.8% ตามลำดับ หากรายงานแล้วสูงกว่าคาดการณ์จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้นจากความกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ย

     สำหรับในประเทศรอติดตามแถลงเศรษฐกิจไทยจาก ธปท. และดุลบัญชีเดินสะพัดในวันที่ 31 ต.ค. Bloomberg Consensus ประเมินไว้เกินดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1350-1400 เชิงกลยุทธ์แนะทยอยสะสมสำหรับลงทุนระยะกลางจากระดับ Valuation น่าสนใจ เน้นกลุ่มขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคาพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (TU) สำหรับ Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น

จับตา ครม.พรุ่งนี้

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดลดความกังวลต่ออิสราเอล-ฮามาสชั่วคราว แม้ว่าจะมีการบุกโจมตีภาคพื้นดินและทางอากาศ และล่าสุดจอร์แดนร้องขอสหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศในจอร์แดน แต่หากตามดูดัชนีวัดความกลัว-โลภ พบว่าพุ่งเข้าสู่โซน Extreme Fear สะท้อนตลาดมีความกลัวขีดสุด และทุกๆ รอบที่เกิดภาวะกลัวขีดสุด จะเกิดการกลับตัว ฉะนั้นอาจเสี่ยงต่อการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสินทรัพย์เสี่ยง 

     ขณะที่ การประชุม ครม. วันพรุ่งนี้(31 ต.ค.66) และ 3 พ.ย.66 รอนายกฯ เคาะ Digital Wallet กลุ่มค้าปลีกน่าจะได้ประโยชน์ขณะที่ CPALL เน้นตั้งรับ 54-55 บาท ผลกระทบจากนโยบายแจกเงิน Digital Wallet 10,000 บาท วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท หากรวมเข้าไปในประมาณการภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี67 ธปท. คาดว่า GDP Growth จะอยู่ที่ 4.4%YoY อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังไม่ได้รวมผลของนโยบายนี้ ทำให้คาด GDP Growth จะอยู่ที่ 3.2%YoY มองแนวรับ 1,382 จุด แนวต้าน 1,397 - 1,400 จุด

1400 ต้องไปให้ถึง

     นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า หุ้นไทยยังต้องรอการกลับไปยืนระดับ 1400 จุดให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงอ่อนตัวลง แนวรับ 1365 / 1300 จุด แนวต้าน 1420 / 1460 จุด 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.