SET แกว่งในกรอบ รอประเมินดอกเบี้ยเฟด 31 ต.ค. - 1 พ.ย.นี้

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET แกว่งในกรอบ โดยกรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,402 และ 1,411 จุด ตามลำดับ เนื่องจากคาดนักลงทุนในตลาดรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดในการประชุมวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. ส่วนกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1,380 และ 1,370 จุด ตามลำดับ หากไม่ต่ำกว่า ยิ่งเป็นสัญญาณเทคนิคที่ดีต่อการฟื้นตัวได้อยู่

ทั้งนี้ แม้ SET มีโอกาสฟื้นตัว จากคาดแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวและของสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ดี Upside จะยังถูกจำกัด เนื่องจากมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม จากความรุนแรงในตะวันออกกลาง ความกังวลเงินเฟ้อ และผลตอบแทนพันธบัตรที่สูง รวมถึงท่าทีของเฟดที่ยังคงดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง 

ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามประกาศงบไตรมาส 3/2566 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector หลังก่อนหน้า กลุ่มธนาคารรายงานกำไรไตรมาส 3/2566 ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด (9 เดือนแรก ปี 2566 กำไรคิดเป็น 75% ของประมาณการทั้งปี) ดังนั้นกลยุทธ์ ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไร ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หากความตึงเครียดในตะวันออกกลางไม่ทวีความรุนแรงมากขึ้น (Upside ราคาน้ำมัน 5- 10 เหรียญสหรัฐ) แนะนำเทรดดิ้งราคาน้ำมันBrent ในกรอบ 84-94 เหรียญสหรัฐ/ บาร์เรล เลือก BCP PTTEP TOP

2) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และPBV 66F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก BDMS CPALL CPN MINT

3) หุ้นที่คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องไปในไตรมาส  4/2566 (+YoY, +QoQ) เลือก AP AOT BLA BCH CENTEL รวมทั้ง KCE ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว (+QoQ) 

ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกําลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ ADVANC มองเป็นหุ้น Defensive ภายใต้ภาวะตลาดผันผวน โดยคาดจะเห็นกำไรปกติค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY ในไตรมาส 3/2566 โดยได้แรงหนุนจากการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและฐานผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น

BCP ไตรมาส 3/2566!คาดมีกำไร 4.6 พันล้านบาท เติบโต 86%YoY และ 902%QoQ แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและกำไรสินค้าคงคลัง ขณะที่ valuation ยังไม่แพง โดยมี PER 66F ระดับ 5.3 เท่า และ PBV 0.8 เท่า (-1SD) อีกทั้งคาด Div. Yield ปี 2566 น่าสนใจในระดับ 5.5% และจะเพิ่มขึ้น 8% ในปี 2567

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.