'ชัยชนะ'หนุนเปิดผับถึงตี4กระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้มาตรการเข้มงวด
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนได้ส่งข้อร้องเรียนถึงปัญหาความเดือดร้อนมายังคณะกรรมาธิการฯ ว่า ขณะนี้เรื่องร้องเรียนต่างๆ เริ่มเข้ามายังคณะกรรมาธิการการฯ มากขึ้น โดยเฉพาะความห่วงใยของพ่อแม่ผู้ปกครองและประชาชนเกี่ยวกับสถานบริการ เนื่องจากมีการร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการฯ ให้ตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตสถานบริการบันเทิงทั่วประเทศว่ามีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ซึ่งเห็นว่า ปัจจุบันนี้ กฎหมายหลักที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสถานบริการ มีเป็นจำนวนมาก โดยในหลายสถานบริการก็มีการละเลยไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง เช่น ขาดต่อใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ขาดต่อใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ เป็นต้น
รวมทั้งจากเหตุการณ์สะเทือนใจประชาชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความเป็นห่วงกลัวว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมขึ้น เพราะฉะนั้น ตนและทางคณะกรรมาธิการฯ จึงขอเรียกร้องไปยัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของเยาวชนและสวัสดิภาพของประชาชนโดยรวม
นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่รัฐบาลมีแนวทางจะเปิดสถานบริการถึง 4.00 น. ในเขตโซนนิ่ง ที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเกิดวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด – 19 นั้น ขอสนับสนุนแนวทางที่รัฐบาลกำลังผลักดันเรื่องนี้ แต่ก็ขอให้สถานบริการได้เข้มงวดกวดขัน เรื่องอายุของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการให้เป็นตามกฎหมายและเรื่องยาเสพติดต้องไม่มีในสถานบริการทุกที่ รวมทั้ง อยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการใช้อำนาจที่มีตามกฎหมายควบคุมดูแลปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่สถานบริการในโซนนิ่ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศโดยรวมด้วย
ขณะนี้ นโยบายให้เปิดสถานบริการถึงตี 4 ในเขตพื้นที่โซนนิ่งสถานบริการ ก็มีกระแสทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลสนับสนุนที่มีน้ำหนักพอๆกัน เนื่องจากในช่วงวิกฤตโควิด – 19 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบอาชีพในสถานบริการเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบ และเป็นกลุ่มคนท้ายๆ ที่ได้รับการเยียวยา ซึ่งการขยายเวลาปิดสถานบริการเป็นตี 4 นั้น เชื่อว่าจะทำรายได้ชดเชยให้กับกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้น
อีกทั้ง ผู้ประกอบการสถานบันเทิงมองว่าช่วงเวลาปิดตี 2 ไม่สอดคล้องกับบริบทและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เพราะมีการสำรวจแล้วว่า นักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายในช่วงเวลา 1.00 – 4.00 น. และลดปัญหาการจ่ายใต้โต๊ะให้กับตำรวจและผู้เกี่ยวข้องเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ความห่วงใยด้านสวัสดิภาพของประชาชน ความรักของพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นห่วงบุตรหลาน และการควบคุมไม่ให้เกิดเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสถานบริการ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยวก็เป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้น จึงมีความคิดที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประกอบสถานบริการ เช่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานบริการจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น มาร่วมหารือกันเพื่อวางมาตรการเพื่อให้นโยบายเปิดสถานบริการถึงตี 4 เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ พนักงาน เป็นต้น โดยจะต้องให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนโดยรวม
"ขอฝากท่านนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ช่วยกันตรวจสอบบรรดาสถานบริการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ทั้ง 6 ประเภท ทั่วประเทศ ตามข้อร้องเรียนของประชาชนที่ผ่านมายังคณะกรรมาธิการการตำรวจ เพื่อเป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินนโยบายต่อไป" นายชัยชนะกล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.