นายกรัฐมนตรี ปลื้มผลหารือ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่จีน สนใจ ขยายการลงทุนในไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมการหารือกับภาคเอกชนของจีนว่า ได้มีการพูดคุยพบปะกับภาคเอกชน 5 บริษัท มีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ร่วมพูดคุยด้วย บริษัทแรก CITIC เป็นบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ ครอบคลุมธุรกิจภาคการเงินและอุตสาหกรรม มีการลงทุนอยู่แล้วประเทศไทยในบางส่วน เขาสนใจเรื่องของพลังงานสะอาด ตรงกับที่ประเทศไทยมีความสนใจ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นบริษัทที่ผลิตล้อแม็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นความต้องการของรถไฟฟ้าด้วย ตนได้ชี้แจง ปัจจุบันไทยมี บริษัทที่ผลิตรถอีวี จากประเทศจีนถึง 4 ราย และอีก 2 รายกำลังรอที่จะตามเข้ามา ถ้าหากตั้งโรงงานผลิตล้อแม็กที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย เป็นการประกันได้ว่าเขาจะมีธุรกิจต่อเนื่องได้ ซึ่งเขารับปากพูดคุยและจะดูต่อ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้พบปะพูดคุยกับบริษัท CRRC Group ซึ่งมีเป้าประสงค์การผลิตรถไฟฟ้า และเชี่ยวชาญในเรื่องระบบรางมากที่สุดรายหนึ่งในโลก ขายหัวรถจักรให้กับประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน เนื่องจากมีความต้องการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่เขาเห็นธุรกิจในการเติบโตในการส่งออกสูงมากขึ้นเรื่อยๆในต่างประเทศ จึงหาช่องทางที่จะมาสร้างโรงงานผลิตรถไฟฟ้าที่ไทย ก็แจ้งไปว่า เป็นเรื่องที่ดีและสอดคล้องกับที่เดินทางมาที่จีนที่มาดูเรื่องข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (One  Belt One Road) จะเป็นการทำเรื่องโลจิสติกส์ รถไฟความเร็วสูง ที่จะมาจากจีน ลาว และมาถึงประเทศไทย

หากเขาสามารถมาสร้างโรงงานผลิตหัวรถจักรหรือขบวนรถไฟได้ที่ไทย จะเป็นจุดส่งออกต่อไปให้ทั่วโลก รวมทั้งได้แจ้งให้เขาทราบว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ได้อนุมัติให้มีการศึกษาการทำแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะเป็นจุดต่อสำคัญ ในแง่ของโลจิสติกส์ที่จะเป็นท่าเรือในการขนถ่ายสินค้าไปที่อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเขามีท่าทีที่สนใจมากขึ้น เพราะการมีแค่ one Belt one Road ไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด แต่การที่เราจะมีแลนด์บริดจ์ขึ้นมา ทำให้มีความสนใจมากขึ้นอีก

นายเศรษฐากล่าวว่าบริษัทที่ 3 บริษัท Ping An Group บริษัทด้านประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีธุรกิจทางด้านธนาคารด้วย มีเทคโนโลยี AI และมีธุรกิจเล็กๆในเมืองไทยอยู่ในปัจจุบัน CEO ของเขาเคยมาเมืองไทยตั้งแต่ปี 1990 มาเที่ยวและมีความประทับใจก่อนที่จะเดินทางไปฮ่องกงเสียอีก แต่การลงทุนยังน้อย จึงได้พูดติดตลกไปว่ามาเมืองไทยตั้งนานแล้วแต่ทำไมลงทุนน้อยจัง รู้สึกน้อยใจอยู่บ้างว่า มาเมืองไทยแต่ทำไมยังลงทุนน้อยอยู่ จึงพยายามหาโอกาสให้เขาเข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะการลงทุนด้านประกันชีวิตของเรายังมีช่องว่างในการเติบโตอีกเยอะ ลองให้เขามาดูว่าจะสามารถซื้อบริษัทในประเทศไทยได้หรือไม่ เป็นลักษณะการเขย่งก้าวกระโดดในแง่การเจริญเติบโตได้ โดยบริษัทมีความประสงค์ที่จะทำเกี่ยวกับเรื่องยาและสุขภาพด้วย ปัจจุบันประเทศจีนมีปัญหาในเรื่องของสังคมสูงวัยซึ่งเหมือนกับประเทศไทย ซึ่งเขาก็รับปากว่าจะช่วยดูว่าจะมาลงทุนได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ปัจจุบันเขามีการลงทุนกับภาคเอกชนบ้างแล้วแต่ยังไม่ใหญ่พอ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากนั้นได้พบกับบริษัท Xiaomi ซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัทหนึ่ง มีธุรกิจสมาร์ทโฟนอยู่ในลำดับ 1-3 และมีการตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคนี้ที่ประเทศไทยด้วย แต่ยังไม่มีฐานผลิต พยายามให้เขาติดต่อเข้ามาเพื่อสร้างฐานการผลิต ได้ยืนยันไปว่า เรื่องโลจิสติกส์การขนถ่ายสินค้าของเราออกไปทั่วโลก อนาคตของเราจะดีมาก One Belt One Road และจะมีเรื่องของแลนด์บริดจ์ ในอนาคตด้วย อยากให้เขามาพิจารณาตั้งโรงงานทั้งการผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งเขายินดีที่จะศึกษาแต่ระยะสั้นยังมีปัญหาในเรื่องการขอใบอนุญาตและเรื่องเกี่ยวกับการออกใบ มอก. และ อย. รวมทั้ง กสทช. ซึ่งเขาฝากให้ตนช่วยผลักดันในเรื่องดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า และสุดท้ายบริษัทที่ตนได้พบบริษัท Alibaba International Digital Commerce Group ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีสำนักงานอยู่ในไทยแล้วผ่านบริษัท Lazada มีการซื้อขายในระดับที่สูงมาก มีการนำสินค้าจากทั่วโลกเข้ามาขาย ได้ฝากว่าจุดสำคัญที่สุดจุดหนึ่งอยากให้เขาเป็นตลาดซื้อขายบนออนไลน์ เอาสินค้าไทยที่เป็นเอสเอ็มอีกระจายขายทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทย เขารับปากว่าจะดูแลให้

นอกจากนี้เขายังมีธุรกิจในเรื่องของออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องของการท่องเที่ยว มีแพลตฟอร์มที่ชื่อFriskies หรือหมูบิน ที่เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดอันหนึ่ง ปัจจุบันส่งนักท่องเที่ยวมาเมืองไทยประมาณร้อยละ 30 ซึ่งถือว่าเยอะมาก ปัจจุบันมีสำนักงานย่อยแล้วที่เมืองไทยโดยมีพนักงาน 3-4 คน ซึ่งได้มีการแนะนำให้เราทำในเรื่องของความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวจีนทั้งเรื่องการออนไลน์ต่อตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งตนได้ระบุว่าจะให้เจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกระทรวงการท่องเที่ยวฯไปติดต่อและพัฒนาระบบที่จะเชื่อมต่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวจีนด้วย 

“เข้าใจว่าจากการพบปะพูดคุยทั้ง 5 บริษัท ประสบความสำเร็จดี และเข้าใจในเจตนารมณ์ของประเทศไทยดีขึ้นว่า การที่เรามา One Belt One Road เพื่อชี้แจงในเรื่องของโลจิสติกส์ ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งได้มีโอกาสพูดคุยแผนอนาคตที่จะขยายในเรื่องของแลนด์บริดจ์ รวมทั้งจุดโน้มน้าวที่จะให้เขาเข้ามาลงทุน โดยมีมาตรการทางด้านภาษีมาสนับสนุนด้วย ซึ่งทุกคนดีใจและกระตือรือร้นที่จะเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น เพราะประเทศไทยได้เปิดแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.