'พิพัฒน์'รอพิสูจน์อัตลักษณ์ศพแรงงานไทยในอิสราเอลก่อนนำกลับประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานทูตไทยในอิสราเอลและกระทรวงแรงงานได้รับแรงงานไทยเข้ามาอยู่ในกรุงเทลอาวีฟแล้วเพื่ออพยพกลับประเทศไทยซึ่งในแต่ละวันมีเครื่องบินรอรับ 2-3 เที่ยวบิน สามารถรับคนได้ 200-300 คนและมีการระดมเจ้าหน้าที่ไปอยู่ในเมืองเทลอาวีฟเรียบร้อยแล้ว คาดว่าการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยจะเร็วและดีขึ้น 
 

นายพิพัฒน์ ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีดำริว่า จะนำคนไทยในอิสราเอล ที่ลงทะเบียนเดินทางกลับไทยจำนวน 7,500 คน กลับไทยในสิ้นเดือนนี้แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องบิน ในการลำเลียงว่าจะมีมากพอหรือไม่ซึ่งขณะนี้มีการบินไทย 1 ลำ,กองทัพอากาศ1ลำ,แอร์เอเชีย 2 ลำ,นกแอร์ 2 ลำ ดังนั้น แม้จะกลับมาไม่หมดภายในสิ้นเดือนแต่คงจะใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับต้องดูสถานการณ์ต่อไป ว่าสงครามนี้จะเลิกหรือเบาบางลงหรือไม่ หรือจะคืบหน้ามาถึงตอนกลางและตอนเหนือของอิสราเอลหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องเร่งขนคนงานที่มีความประสงค์จะกลับไทยกลับมาทั้งหมด
 

ข้อมูลล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนประมาณ 7,500 คน ขณะนี้สามารถนำกลับมาได้แล้วประมาณ 500 คน ส่วนการนำร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตกลับมานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานระบุว่าขณะนี้คงทำอะไรไม่ได้เพราะอยู่ที่รัฐบาลอิสราเอลซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ว่าเป็นประชาชาชนชาติใดบ้าง แต่เมื่อมีการพิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยแล้วจะลำเลียงศพกลับมาเชื่อว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์จะมีการลำเลียงบางส่วนที่พิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยแล้วกลับมาได้ 

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่ายังมีนายจ้างบางส่วนกักตัวแรงงานไว้ นายพิพัฒน์ ระบุว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปแล้วว่าขอความกรุณาจากนายจ้างอิสราเอล ที่ขณะนี้ไม่ควรให้คนงานต้องทำงานเพราะอยู่ในภาวะที่ไม่สงบ พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้ว แต่อยู่ที่เอกอัครราชทูตในการประสานกับรัฐบาลอิสราเอล 

เมื่อถามว่า ขณะนี้จำนวนแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกันมีจำนวนเท่าไหร่ นายพิพัฒน์ ระบุว่าเท่าที่ทราบมี 18 คน แต่ยังไม่ได้ข่าวคราว แต่เชื่อว่าการที่นายกเดินทางไปประเทศจีน จะมีการเจรจาผ่านหลายประเทศ รวมถึงการเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบียคาดว่าจะมีการหารือช่วยเหลือตัวประกันผ่านประเทศที่ 3 และ 4 ด้วย  เชื่อว่าประเทศไหนที่จะช่วยเราได้ นายกจะเจรจาทั้งหมด