คลัง แย้ม กระเป๋าดิจิทัลได้ใช้ก่อนธ.ค.67 เปิดช่องทางเอื้อ ผู้ป่วยติดเตียง

ภายหลังนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ร่วมกันแถลงข่าว  "ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" เปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ซักถามในข้อสงสัยประเด็นต่างๆ 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังเคยทำตัวเลขประเมินไว้ว่า จะส่งต่อเศรษฐกิจ 1.2%-1.8% แต่จากเงื่อนไขต่างๆไม่เหมือนเดิม การประเมินต้องดูลงไปในรายละเอียดและการหมุนต่อระบบเศรษฐกิจ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังกล่าวว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ในปี 67 แต่อาจไม่เต็มที่มากนัก เพราะกว่าโครงการจะออกมา โรงงานต่างๆต้องเริ่มผลิต ก็จะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทันที แต่ขึ้นอยู่ว่า ทำได้เร็วแค่ไหน แต่ผลจริงๆจะไปเกิดขึ้นในปี 68
 

สำหรับระบบการชำระเงินอยู่ในขั้นตอน และมีความพร้อมในวันที่เริ่มดำเนินการแน่นอน ซึ่งมีความปลอดภัย โปร่งใส มีการตรวจสอบอย่างครบถ้วน ธนาคารแห่งประเทศไทยขอเวลา 15 วันที่จะเข้ามาช่วยดู ซึ่งรัฐบาลยินดีและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า ระบบการชำระเงินจะไม่มีข้อผิดพลาด

เมื่อถามถึงระบบป้องกันการทุจริตนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และการทุจริตจากภาครัฐไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะเงินทุกบาทประชาชนจะเป็นผู้รับ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำ คือ ตัดสิทธิ์คนที่เคยทำผิดในโครงการในอดีต รวมถึง ระบบฐานข้อมูลเป็นระบบ บล็อกเชน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการซื้อขายจะถูกบันทึกไว้ครบถ้วน เมื่อมีการตรวจสอบพบว่า มีการซื้อขายผิดประเภทจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

ถามว่าการใช้งบกลางปี ที่จะสิ้นสุดก.ย.67 จะโยกไปใช้ปลายปีได้อย่างไรนั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า กลไกทางงบประมาณสามารถดำเนินการได้ และเป็นเรื่องปกติหากมีความจำเป็นต้องกันข้ามปีงบประมาณสามารถทำได้ มีการเสนอและสนองที่ครบถ้วน การเสนอคือ ประชาชนกดขอรับสิทธิ์ การสนอง คือ รัฐยืนยันว่า ท่านมีสิทธิ์ครบถ้วน จะเป็นการผูกพันธ์งบประมาณที่ต้องล็อกไว้ให้กับประชาชน เพราะผูกพันธ์สัญญากันแล้ว

ร้านค้าที่กังวลเรื่องของภาษีนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า โครงการนี้ไม่มีการส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร ร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น จึงอยากให้ภาคเอกชนเข้ามาอยู่ในระบบ จะสามารถประกอบธุรกิจได้ถูกต้องและปลอดภัย

นายจุลพันธ์ กล่าวถึง ความพร้อมของแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ในขณะนี้ยังไม่เปิดให้ยืนยันการรับสิทธิ์ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต แต่ประชาชนสามารถเข้าแอปพลิเคชันยืนยันตัวตนไว้ก่อนได้ และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.จะเปิดปุ่มให้ลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ให้ประชาชนตรวจสอบว่ามีสิทธิ์หรือไม่ โดยเปิดให้ลงทะเบียนได้ 24 ชั่วโมง หากประชาชนเข้ามาใช้สิทธิ์มาก อาจจะเกิดการดีเลย์ในการตรวจสอบการสแกนใบหน้าบ้าง แต่ยืนยันว่า ระบบสามารถรองรับได้ 

ถามอีกว่า จะมีการชี้แจงรายละเอียดของโครงการไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ในเรื่องกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และการลงทะเบียนร้านค้า ที่จะรวมทั้งร้านเซเว่น อีเลเว่น และร้านซีเจมอร์ จะต้องดำเนินการอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า คาดว่า ช่วงใกล้กลางเดือนก.ย.จะมีการแถลงลงทะเบียนในกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนและการลงทะเบียนร้านค้า

กรณีผู้ป่วยติดเตียง กระบวนการลงทะเบียนเหมือนกลุ่มปกติ ทั้งกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน หรือไม่มีสมาร์ทโฟน กระบวนการใช้เงิน จะมีการเปิดช่องทางเป็นกรณีพิเศษสำหรับกลุ่มติดเตียง แต่จะมีความรัดกุมของระบบด้วย น่าจะมีการแถลงรายละเอียดในครั้งที่ 3 ที่เป็นการแถลงเรื่องการใช้เงินในกลุ่มต่างๆ

ถามว่าประชาชนจะได้ใช้เงินจริงๆเมื่อไหร่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า อยู่ในไตรมาส 4 ส่วนจะเป็นภายในเดือนธ.ค.หรือไม่ รัฐบาล ก็พยายามจะเร่งรัด และมีโอกาสเร็วกว่าเดือนธ.ค.