'จักรภพ'ชี้'ยิ่งลักษณ์'ควรได้รับความเป็นธรรมเหมือนกับทุกคน
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม นำตัวนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายจักรภพ ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมากซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มาส่งยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10
นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความนายจักรภพกล่าวว่าวันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวพร้อมสำนวนมาส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา โดยเดิมทีสำนวนนี้มีการส่งสำนวนเเละมีความเห็นสั่งฟ้องมาก่อนเเล้ว เเต่คดีนี้เดิมมีผู้ต้องหาหลายรายในส่วนที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง บางรายทางพนักงานอัยการก็สั่งไม่ฟ้องในภายหลังซึ่งเราก็นำประเด็นในคำพิพากษาที่ยกฟ้องจำเลยมายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการในวันนี้ว่านายจักรภพไม่เกี่ยวข้อง โดยทางพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา10 นัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค.เวลา 10.00 น.
นายจักรภพกล่าวว่าวันนี้โดยทีมทนายความได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ของเราในคดีนี้ และเราเชื่อว่ามีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจึงทำให้เกิดคดีนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้เนื่องจากเราต้องการเคารพกระบวนการ ตนมีความเคารพในกระบวนการยุติธรรมจึงได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้ และที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ผลนำมาสู่การสร้างความกระจ่างเเจ้งให้กับเรื่องนี้เเละตนเอง
"มีความมั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรม มีความเปลี่ยนแปลงไปมากและยังเป็นที่พึ่งสุดท้าย ในการให้ความเป็นธรรมและความยุติธรรมในทางสังคมและการเมือง เรื่องนี้สำคัญมากเพราะหากไม่ได้รับความเป็นธรรมสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก เป็นการเผชิญหน้าทางการเมือง ถ้าหากกระบวนการยุติธรรมสามารถสร้างให้ธรรมมะเป็นข้อยุติได้จริงก็เป็นเรื่องที่เป็นข่าวดีสำหรับทุกคนไม่เฉพาะคนในคดีนี้เท่านั้น" นายจักรภพ กล่าว
เมื่อถามว่าหมายถึงคนที่ลี้ภัยในต่างประเทศเช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยใช่หรือไม่
นายจักรภพ กล่าวว่าในแง่ของกระบวนการยุติธรรมแล้วเราหมายถึงทุกคน ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไทยไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือผู้ประกอบอาชีพอะไรก็ตาม ถ้าเกิดเป็นคนไทยควรได้รับความเป็นธรรมเสมอภาคเท่าเทียมกันตามกฎหมาย ตนก็หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนหรือคนอื่นๆ ก็ยังคงซึ่งความยุติธรรมสำหรับทุกคน ทุกฐานะทุกอาชีพในเมืองไทยต่อไป
เมื่อถามต่อว่าหากคดีเสร็จสิ้นแล้วจะเข้าสู่การเมืองเต็มตัวหรือไม่
นายจักรภพ ยอมรับว่า มีเเต่บอกได้เลยว่าการเมืองไม่จีรัง ตนหมายถึงลงการเมืองในภาพกว้างเพราะแค่การลงรับสมัครเลือกตั้งหรือการรับตำแหน่งต่างๆเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเมือง การช่วยงานพรรค การช่วยงานกลุ่มการเมืองก็ยังเป็นสิ่งต่างๆที่เราทำได้ งานการเมืองที่จะผลักประเทศไปข้างหน้า คงไม่ทิ้งเพราะนี่คือชีวิต ซึ่งระหว่างนั้นถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็อาจจะไปเป็นอาจารย์ หรืออาชีพสื่อมวลชนเพราะตนสนใจและเป็นอาชีพเก่า ก็คิดว่าคงจะไม่เป็นที่รังเกียจที่จะขอมีบทบาทบ้าง แต่เรื่องใหญ่จริงๆก็จะไม่ทิ้งการเมือง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.