ก้าวไกล อัด นายกฯ ไม่ตั้งใจแก้ตั๋วตำรวจ แฉ สน.รับส่วย เศรษฐา ท้าเปิดหลักฐาน
วันที่3เม.ย. ที่รัฐสภา ระหว่างการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ในช่วงเย็นวันเดียวกัน สส.ก้าวไกลสลับกันอภิปราย ตั้งคำถามถึงกระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับสูง รวมทั้งการจ่ายส่วยให้ตำรวจ
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จากสมรภูมิแย่งชิงผบ.ตร. ของนายตำรวจเบอร์1และเบอร์2 เป็นศึกช้างชนช้าง เกิดความวุ่นวายในตำรวจ เพราะการแต่งตั้งผบ.ตร.ของนายกรัฐมนตรีทำไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ทราบว่ามีโทรศัพท์ลึกลับมาสั่งการในวันแต่งตั้งผบ.ตร. นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวันที่ 21พ.ย.2566 เรื่องการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ มีคนสมหวังและผิดหวัง ไม่รู้นายกฯทราบก่อนที่จะมีการลงนามแต่งตั้งผกก.ในวันที่ 1ธ.ค.2566ได้อย่างไร สะท้อนเรื่องตั๋ว
ทราบว่า ระดับรองผกก.ขึ้นเป็นผกก. ใช้เงิน10ล้านบาท สารวัตรเป็นรองผกก. ใช้1.5ล้านบาท เงินที่จ่ายไป จะไปได้คืนจากส่วย ส่วนที่นายกฯสั่งเด้ง 2นายตำรวจใหญ่มาช่วยราชการ อาจเป็นแค่การกวาดปัญหาไว้ใต้พรม ไม่รู้เป็นการฟอกขาวตร.หรือไม่ แม้นายกฯใช้อำนาจเด้ง 2นายตำรวจใหญ่มาช่วยราชการก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ ซ้ำยังใช้อำนาจประธานก.ตร. สั่งตำรวจหยุดให้ข่าว ทั้งที่เป็นเรื่องวิกฤติศรัทธาของประชาชนต่อตำรวจ
"รัฐบาลปล่อยให้ปัญหาตำรวจคาราคาซัง ไม่ตั้งใจแก้ปัญหาระบบตั๋วตำรวจ อย่าให้ใครปรามาสนายกฯได้ว่า เป็นแค่เหรียญอีกด้านของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี หรือแก้ปัญหาแบบฉบับบ้านจันทร์ส่องหล้า"น.ส.ศศินันท์กล่าว
ขณะที่นายจรยุทธ จตุพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงเรื่องส่วยรถบรรทุก ซึ่งขอตั้งชื่อว่า G PASS จ่ายผ่านสะดวก ให้มีการใช้รถบรรทุกเชื้อเพลิงนอกเวลาที่กำหนด ตนเป็นห่วงจะย้อนรอยอุบัติเหตุรถแก๊สระเบิดปี2533 ถ.เพชรบุรี
ระหว่างการอภิปรายบางช่วงบางตอน นายจรยุทธ เปิดหลักฐานที่อ้างว่า เป็นซองเอกสารระบุชื่อสถานีตำรวจหลายแห่งทั่วประเทศทั้งในกทม.และต่างจังหวัด พร้อมระบุที่ตั้งบริษัทขนส่งที่มีการจ่ายเงินให้ตำรวจ ตลอดจนรายละเอียดช่องทางสื่อสารระหว่างบริษัทกับสถานีตำรวจ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร จึงลองแอดไลน์และโอนเงินเข้าไป ไปปรากฏว่า ชื่อบัญชีธนาคาตรงกับชื่อไลน์ ทำให้เข้าใจว่า เป็นบัญชีตรง ไม่มีบัญชีม้าหรือบัญชีแมวมาเกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะนำหลักฐานฝากประธานสภาฯส่งไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า หน้าที่การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามที่ประชุม ก.ตร. นายกฯแม้จะเป็นประธานก.ตร. แต่ก็ไม่เคยครอบงำ สั่งการทางตรงหรือทางอ้อม ในการแต่งตั้งโยกย้าย การทำหน้าที่ประธานก.ตร. ให้กรรมการอภิปรายอย่างทั่วถึง ยึดหลักนิติธรรม การกล่าวหาตน ชี้นำ สั่งการ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นเท็จ การแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บัญชาการ ระดับภาค ก็เป็นไปตามกฎหมาย ไม่เคยไปชี้นำ
รู้ดีว่า หากได้ตำรวจที่ดี ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข ขณะนี้มีปัญหาในตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งเฉย แก้ไขทันที ทั้งการตั้งกรรมการตรวจสอบ เป็นต้น ขอยืนยัน ในฐานะประธานก.ตร. และในนามนายกรัฐมนตรี จะเร่งรีบแก้ไข กอบกู้ภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนหน้าได้เดินทางไป สำนักงานตำรวจไซเบอร์ และยังกวดขันตำรวจ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ขอให้เชื่อมั่นในตน ถ้าพบว่า ลูกน้องใครที่เกี่ยวข้อง จะได้ดำเนินการให้ถูกต้อง หากมีหลักฐาน ขอให้ส่งมา จะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.