เปิดเกณฑ์'สั่งพักราชการ'ปมบิ๊กโจ๊กมอบตัวตามหมายจับคดีฟอกเงิน

นายเศรษฐา​  ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ​ (ก.ตร.) กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ จะได้คำตอบว่ากรณีศาลอนุมัติหมายจับ​ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์​ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ ในคดีร่วมกันฟอกเงิน​ เว็บพนันออนไลน์​ จะต้องถึงขั้นสั่งพักราชการหรือไม่ 

"เดี๋ยวพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ​ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายกฎหมาย​ จะหารือกัน​ ช่วงบ่ายวันนี้จะได้คำตอบก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"นายเศรษฐา กล่าว 
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งพักราชการ หมายถึงการให้พ้นจากตำแหน่งระหว่างการสอบสวนพิจารณาทางวินัยหรือระหว่างถูกฟ้องคคีอาญา หรือระหว่างต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา และเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎ ก.พ. ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2538) ตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้ราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ว่าด้วยการสั่งพักราชการ

นอกจากนี้ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ให้งดเบิกจ่ายเงินเดือนและเงินอื่นๆ ที่จ่ายเป็นรายเดือน ตลอดจนเงินช่วยเหลือต่างๆเพื่อไม่ให้ผู้ถูกสั่งพักราชการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการและปัองกันมิให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนหรือพิจารณาหรือมิให้กิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น หรือเพื่อมิให้กิดความเสียหายแก่ทางราชการ
 

เกณฑ์ของการที่จะสั่งพักราชการได้

ข้อ 1. กรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างรัยแรบจนถูตั้งกรรมการสอบสวน หรือ

ข้อ 2. ถูกฟ้องคคีอาญาหรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญา เวันแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษซึ่งจะสั่งพักได้ก็ต่อเมื่อเมื่อเข้าเหตุอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(1) ผู้นั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือถูกฟ้องคคีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญาเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤดิการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ และผู้ที่ถูกฟัองนั้นพนักงานอัยการมิได้รับเป็นทนายแก้ต่างให้ และผู้มีอำนาจดังกล่าวพิจารณาว่าหากให้ผู้นั้นอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดกการเสียหายแก่ราชการ

(2) ผู้นั้นมีพฤติการณ์ที่แสดงว่าหากยังอยู่ในหน้าที่ราชการจะเป็นอุปสรคต่อการสอบสวนพิจารณา หรือจะก่อให้กิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น

(3) ผู้นั้นอยู่ระหว่างควบคุมหรือขังโดยเป็นผู้ถูกจับในคคีอาญาหรือต้องจำคุกโดยคำพิพากษาหรือถูกควบคุม ขัง หรือต้องจำคุก เป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าสิบห้าวัน

( 4 ) ผู้นั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนและต่อมามีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำโดยคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดอาญาในเรื่องที่สอบสวนนั้นหรือผู้นั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนในภายหลังที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดอาญาในเรื่องที่สวบสวนและผู้มีอำนาจดังกล่าวพิจารณาเห็นว่าข้อเท็จจริง ที่ปราฏตามคำพิพากษาถึงที่สุดได้ความประจักษ์ชัดว่าการกระทำความผิดอาญาของผู้นั้นป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

ที่มา 

-กฎ ก.พ. ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2538) ว่าด้วยการสั่งพักราชการ การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามผลการสอบสวน  
-พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535
 


 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.