โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธ เตรียมร่วมรัฐบาล ปัด เป็นพรรคอะไหล่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อบุคคลในพรรคปรากฏอยู่ในโผการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลเศรษฐา ในครั้งหน้าว่า เรื่องดังกล่าวไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ต้องไปถามคนปล่อยข่าว ในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือ ประชุมร่วมระหว่าง สส.กับ กรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการพูดคุยกัน 

ไม่อยากให้มีการรายงานข่าวเช่นนั้นเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เรื่องร่วมรัฐบาลคือเรื่องใหญ่ที่มีกระบวนการกลไกในพรรคที่จะต้องพูดคุยกัน เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งยังไม่ได้มีการหยิบยกมาพูดกัน
 

พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็ต้องทำให้เต็มที่  ช่วงนี้มีการอภิปรายทั่วไป ในทางการเมืองความเป็นสถาบันการจะมาเป็นมวยล้มไม่มีใครทำกัน ประชาชนจับตามองอยู่ตลอด และตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ในคณะกรรมการบริหารพรรค แต่อย่างใด และขอยืนยันว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคก็ไม่เคยคุยกับใครในเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้น

นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาพรรคว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่มีหรอกที่จะแก้ผ้ารอใคร เพื่อไปร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรคก็สั่งลุยเต็มที่ 
 

การที่ยกเรื่องคดีตีนไก่มากล่าวหาหัวหน้าพรรคว่าคงไม่กล้าอภิปรายนั้น ก็ไม่จริงเพราะคดีต่างๆ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลย พรรคไม่เคยรอเป็นอะไหล่ให้กับรัฐบาล หัวหน้าพรรคมาจากกระบวนการเลือกตั้ง ใครไม่ชอบเป็นการส่วนตัวก็ไม่เป็นอะไร แต่ต้องให้โอกาสในการบริหารพรรคตามระบบ เชื่อว่าการแสดงความเห็นใดๆ ออกมาก็ต้องระลึกถึงพรรคบ้าง ไม่เช่นนั้นพรรคก็จะเกิดความเสียหาย

นายราเมศ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า พรรคมีการเตรียมการมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ การตรวจสอบถ่วงดุลด้วยญัตติอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ฝ่ายค้านต้องนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่า 7 เดือนที่บริหารราชการแผ่นดินนั้นมีข้อบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง โกหกหลอกลวงพี่น้องประชาชน มีความสำเร็จสูงสุดอย่างเดียวของรัฐบาลคือเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งรัฐบาลอย่ากังวลจนเกินไป เตรียมคำตอบไว้เท่านั้น 

ในส่วน สส.ของพรรค ไม่กังวลว่าจะมีการประท้วง เพราะการประท้วงก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับ การพูดถึงกระบวนการในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดถ้าอภิปรายไม่ได้เลยก็คงไม่ใช่ ส่วน สส.ถ้าอภิปรายกระทบบุคคลภายนอกเขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ากลัวจนเกินเหตุ การอภิปรายครั้งนี้ไม่มีผลถึงขนาดลงมติ แต่มติของประชาชนจะสำคัญที่สุดที่จะตัดสิน และยังมีข้อมูลอีกมากที่รัฐบาลจะเจอตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เตรียมตัวไว้เลย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้สส.ของพรรคจะได้มีการเตรียมอภิปราย ซึ่งจะมีการประชุมกลุ่มย่อยตลอดทั้งวัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฎฐ์ โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า จะเขียน 2-3 เรื่อง แต่นั่งดูดีกว่า 1.เรื่องการอภิปรายของฝ่ายค้าน เห็นข่าวพรรคก้าวไกลแถลงข่าวว่าจะอภิปรายอย่างดุเดือด ช่วยถามเรื่องกางเกงในเมียนายพลให้หน่อย เงียบไปแล้ว ตอนหลังพรรคก้าวไกลก็มีชนักติดหลังหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง สด.43 ปลอม ก็น่าจะยอมๆกันไปแล้ว เรื่องนี้ น่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดู

2.เรื่องราคาพลังงาน รมต.พีรพันธ์ โชคดีที่หน้าตาดี มาจากชนชั้นสูง มาถึงก็พูดจะปรับ“โครงสร้าง” ราคาน้ำมัน พูดก็ดูดี คนเชื่อแต่ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้นิดเดียว การเอาภาษีกองทุนน้ำมันไปชดเชยราคาน้ำมันใครก็ทำได้ ไม่ต้องมีรมต.ก็ได้ กลายเป็นโมฆะบุรุษไปเลย

3.อยากเขียนเรื่อง ตำรวจ ตบจูบกันหน้าบวมแล้ว มันควรจะจบอย่างไร หรือจะรอกาสิโนที่ถูกกฎหมาย  ก็ตบจูบกันไปอย่างนี้ รอกาสิโนถูกกฎหมาย ต่อไปมีกาสิโนถูกกฎหมายแล้วเงินส่งเข้าบัญชีตำรวจก็ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป 

4.หันมาดูฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ ยังแต่งตัวไม่เสร็จ ยังแก้ผ้าอยู่เลย ครั้นจะให้หัวหน้าพรรคอภิปรายก็มีเรื่องตีนไก่เถื่อนติดคออยู่ คงไม่กล้าอภิปราย และประชาธิปัตย์คงไม่เต็มร้อย กลัวทักษิณไม่เอาเป็นอะไหล่ ทักษิณก็ฉลาดพอ กองอะไหล่ชิ้นนี้ไว้จนขึ้นสนิมแล้วค่อยขายเป็นของเก่า อย่าหาว่าผมปรามาสพรรคประชาธิปัตย์นะ ผมเอาใจช่วยเสียด้วยซ้ำ อยากแนะนำว่าการอภิปรายควรทำอย่างไร ตอนผมอยู่ปชป.ผมอภิปรายทุกครั้งไม่เคยเว้นเลย แต่อย่าแนะนำเลย เพราะใจคุณยังไม่เต็มร้อย หัวใจ 2 ห้องเป็นฝ่ายค้าน อีก 2 ห้องยังอยากเป็นรัฐบาล