วิสุทธิ์ ไม่สนฝ่ายค้าน จ้องซักฟอก ทักษิณ ก่อแก้ว แนะเลิกมโน เปลี่ยนตัว เศรษฐา

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดสรรเวลาในการอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า วันที่2เม.ย. จะมีการหารือกับฝ่ายค้านขอเพิ่มเวลา ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ นับองค์ประชุมในการโหวตรายงานพิจารณาผลการศึกษา Entertainment Complex แต่ได้นำเวลาเดิมที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง รัฐบาลได้ 6 ชั่วโมงมาปรึกษาภายในพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล เมื่อดูเวลาแล้วคณะรัฐมนตรีจะได้เวลาชี้แจงเพียง 4 ชั่วโมง การอภิปรายเป็นการกล่าวหารัฐบาลรัฐบาลจึงมีหน้าที่ชี้แจง หากให้เวลาน้อย เหมือนการอภิปรายของสว.ที่รัฐมนตรีบางคนมีเวลาชี้แจงเพียง 2 นาที เพราะเวลาไม่พอ ก็เกิดความเสียหาย ถูกกล่าวหาว่ารัฐมนตรีตอบไม่เคลียร์ 

 

ดังนั้นเพื่อความยุติธรรมจึงจำเป็นต้องขอเวลาเพิ่มและต้องเจรจากับฝ่ายค้านว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปรับเวลา โดยมีธงในใจ รัฐบาล 10 ชั่วโมงขึ้นไป และให้ฝ่ายค้าน 18 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่ากันเท่าตัว ยังไม่ได้คุยกับรัฐบาลแต่มองว่าความยุติธรรมต้องเกิดเมื่อมีการกล่าวหาก็ต้องได้เวลาในการชี้แจง และรัฐมนตรีหลายคนก็มาบ่นว่า ในการอภิปรายของวุฒิสภาก็ ไม่มีโอกาสชี้แจง 
 

เมื่อถามว่า นส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ หากมีการกล่าวพาดพิงถึง นายทักษิณ ชินวัตร จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีคดี นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ขอให้มองที่ข้อบังคับการประชุมสภาเป็นหลัก หากมีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลภายนอกเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่จะต้องกล่าวตักเตือน ไม่ใช่เฉพาะนายทักษิณแต่รวมถึงบุคคลที่ไม่มีโอกาสมาชี้แจงเป็นเรื่องปกติที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ใครก็ตามที่อยู่นอกสภาฯ มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องคนในสภา เพราะถือเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม  

ยืนยันไม่มีการตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์ทักษิณ สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคร่วมรัฐบาลสนใจข้อบังคับ ดูข้อบังคับเป็นสามารถทำหน้าที่ได้ ไม่ใช่พร้อมเบรคแต่เป็นการทำหน้าที่ หากไม่เกินเลยก็ไม่มีใครว่าอะไร 


นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตแกนนำนปช.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เวลาผ่านมากว่า 7 เดือน รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ผลงานอาจจะถูกมองว่ายังช้า แต่ก็เป็นผลจากการบริหารงาน ยังไม่ได้ใช้เงินงบประมาณโดยตรง การทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมายและความร่วมมือจากบางหน่วยงาน สภาพการเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนกระทรวงเศรษฐกิจหลายกระทรวงได้โดยตรง

นายก่อแก้วกล่าวว่า เชื่อว่าหลังพ.ร.บ.งบประมาณพ.ศ.2567ประกาศใช้ มีการตกผลึกในข้อกฎหมายเรื่องดิจิทอลวอลเล็ตและแนวทางประกาศใช้ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะมากขึ้น จะมีการตัดสินใจลงทุน สร้างงานมากขึ้น กลไกทางเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปอย่างไหลลื่นกว่าเดิม ทุกอย่างก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


ส่วนที่นักวิพากษ์วิจารณ์การเมืองชอบมโนว่า นายเศรษฐาจะถูกเปลี่ยนตัว ถูกปลด ล้วนเป็นการปล่อยข่าวให้ตกใจ สร้างความไม่เชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขอให้หยุดมโน ถ้าว่างมาก กรุณาไปหางานทำ จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมจะดีกว่า

ขณะที่นายสุระ เตะชะทัต เลขาธิการพรรคพลังบูรพากล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ ประชาชนคงจะจับตามองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ในส่วนของฝ่ายค้าน คงจะถูกจับตาว่า จะมีข้อมูล หลักฐาน ไม้เด็ดอะไร อย่างที่ได้ยื่นญัตติ ทำให้กระทบถึงเสถียรภาพรัฐบาลโดยรวมได้หรือไม่ ส่วนรัฐบาล การชี้แจงข้อสงสัยจากนายกฯ รัฐมนตรี ให้ความกระจ่างชัดได้มากน้อยเพียงใด หากชี้แจงได้ดี จะเกิดแต้มกับรัฐบาล ในทางตรงกันข้าม หากไม่สามารถชี้แจงได้ จะเกิดผลกระทบกับรัฐบาลเอง


กรณีพรรคฝ่ายค้านบางพรรค จะพูดเชื่อมโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น หากคุมกันไม่ได้ จะเกิดการประท้วง อยากให้มีการมุ่งเน้นเนื้อหาสาระในปัจจุบัน การบริหารงานเชิงผิดพลาด ไม่ทำตามนโยบายมากกว่า การมุ่งที่จะใช้วาทกรรมรุนแรง เสียดสี เพื่อทำให้เกิดความขัดแย้ง นอกจากอภิปรายติติงแล้ว ควรที่จะให้ข้อเสนอแนะ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ด้วย นายเศรษฐา และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับฟังคำแนะนำ ข้อเสนอแนะจากฝ่ายค้าน จะได้นำไปปรับปรุง ประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเกิดประโยชน์กับประเทศ ประชาชนในอนาคต 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.