ใครเจอกับตัวบ้าง จัดระเบียบบ้านให้ผู้สูงอายุ เรื่องยากกว่าที่คิด!
หลายคนอาจจมองแค่ว่าการสะสมของของผู้สูงวัย เป็นพฤติกรรมแค่เพียงหวงของตามนิสัยคนแก่ แต่แท้ที่จริงแล้วนี่อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่า พวกเขาต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะเมื่อสูงอายุมากขึ้น พฤติกรรมของการสะสมของจะมากขึ้นตามลำดับ และนอกจากจะก่อให้เกิดผลเสียทางด้านสุขอนามัยแล้ว บางครั้งก็รุนแรงถึงขั้นก่อให้เกิดผลเสียต่อความสัมพันธ์ รวมไปถึงสภาพจิตใจของผู้สูงวัยเองด้วย (อ่านเพิ่มเติม สังเกตพฤติกรรมผู้สูงวัย 'โรคสะสมของ' ระดับไหนต้องได้รับการเยียวยา )
นี่จึงเป็นที่มาของบทสัมภาษณ์ คุณอิม - อิม-อิมยาดา เรือนภู่ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ ‘แมวบิน’ นักจัดระเบียบบ้าน ที่เข้าใจและมีประสบการณ์กับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่จะมาเปิดเผยให้เห็นว่า .. บ้านที่รก หรือบ้านที่มีระเบียบ สำหรับผู้สูงอายุแล้ว มีความหมายมากกว่าที่ตาเห็น!
เมื่อลูกหลานจัดการปัญหาพ่อแม่สะสมของไม่ได้
คุณอิมเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเดินหน้า ‘จัดระเบียบบ้าน’ ว่าเธอมองว่ากลุ่มผู้สูงอายุจะเป็นลูกค้าของเธอตั้งแต่แรก เพราะด้วยความที่มีประสบการณ์อยู่กับคุณตาคุณยายที่มีของเยอะๆ มาก่อน จึงเข้าใจในทุกมิติว่า บ้านรกเป็นอย่างไร จัดแล้วเป็นอย่างไร ของหายเป็นอย่างไร และเวลามีของอยู่เป็นอย่างไร
‘เราเห็นใจกลุ่มผู้สูงอายุอยู่แล้ว และเราก็รู้ว่าลูกค้าหลายท่านมีปัญหาด้านนี้ บางคนอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นครอบครัวใหญ่ ผู้สูงอายุไม่ยอมทิ้งขยะหรือของ เขาก็จะจัดได้แค่ในส่วนของเขา’
นอกจากความเห็นใจที่ลูกหลานไม่สามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ คุณอิมยังบอกอีกว่าผู้สูงวัยก็ห่อเหี่ยวอยู่แล้ว มาเจอกับสภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตเกษียณอีก ก็จะเป็นการสั่งสมปัญหาที่มากขึ้น
‘ พูดได้เลยว่า บางคนคือรกจนทำให้คุณภาพชีวิตแย่ อาจจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ คนที่ไม่มีความสุขเพราะของที่ล้นออกมากระทบและเป็นภาระกับคนอื่นในบ้าน จนกลับมาส่งผลต่อสภาวะจิตใจของตัวเขาเอง กับกลุ่มที่มีความสุขที่มีของเยอะๆ แต่ว่าก็แยกเป็นประเด็นได้ว่า ผู้สูงวัยเหล่านั้นอาจมีความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก ว่าช่วงชีวิตของเขามีความสุข กับกลุ่มผู้สูงวัยที่อาจมีความผิดปกติ คือเป็นโรคสะสมของ คนเหล่านี้ไม่สามารถยั้งคิดยั้งทำ และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แม้กระทั่งของที่ไม่มีประโยชน์ หรือขยะ ฝาน้ำอัดลมก็เก็บหมดเลย’
กระบวนการจัดระเบียบบ้าน = กระบวนการตกผลึกทางความคิด
‘ จากประสบการณ์ของเราถ้าเป็นผู้หญิงสูงวัย จะมีปัญหาเรื่องเสื้อผ้า จาน ชาม เครื่องครัว และของๆ ลูกในวัยเด็ก ผู้หญิงจะมีหลากหลายมาก แต่ถ้าเคยทำงานประจำมาหนักๆ ก็จะห่วงอุปกรณ์การทำมาหากิน หรือเอกสารต่างๆ ถ้าเป็นครูก็จะห่วงเอกสารสอนเด็ก เป็นต้น ส่วนผู้ชายจะห่วงเครื่องใช้ไฟฟ้า งานไม้ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ ผู้ชายจะเสียดายในเรื่องมูลค่า ส่วนผู้หญิงจะเสียดายเรื่องความทรงจำ’ คุณอิมยกตัวอย่างให้เห็นถึงความต่างของผู้สูงวัยเพศหญิงและชายจากประสบการณ์การจัดบ้านของตัวเอง
โดยระบุว่ากระบวนการจัดบ้านนั้นสิ่งสำคัญคือ ‘การมีพันธสัญญาร่วมกัน’
‘เบื้องต้นเราต้องพูดคุยให้ลึกซึ้งก่อน ให้เข้าใจ เวลาเราเข้าหาลูกค้ากลุ่มนี้เราคือเป็นพันธมิตรนะ เราไม่ได้เอาของไปทิ้งทั้งหมด เราไม่ได้สักแต่ว่าจะเอาทิ้ง แต่เราคือเพื่อน และเราสื่อสารว่าการจัดบ้าน และทำให้บ้านโล่งได้จะมีความสุขขนาดไหน และทำให้เกิดคุณภาพชีวิตในวัยสูงวัยได้อย่างไร
หลังจากนั้นคือต้องมีพันธสัญญาที่พูดคุยกัน และเราจะต้องทำให้ได้ตามที่เราพูด เราไม่โกย เราเอาทุกอย่างมาให้ดูก่อนร้อยเปอร์เซนต์ และให้เขาเป็นคนตัดสินใจร่วมกัน’
หลังจากที่ตกลงกันแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการรื้อบ้านออกมาร้อยเปอร์เซนต์ และให้ผู้สูงวัยเห็นของทุกชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นก็จะมีการปรึกษาหารือว่าชิ้นไหนควรทิ้ง ชิ้นไหนบริจาค ซึ่งคุณอิมยังมีการแนะนำสถานที่บริจาคให้แก่ผู้สูงวัยได้เลือกเพื่อให้เกิดความรู้สึกดีมากที่สุด
‘เราจะไม่ตามใจลูกค้าร้อยเปอร์เซนต์ ลูกค้าบางคนมีลูกดื้อ แต่ว่าเราก็ต้องดูว่ามันเหมาะสมมั้ยด้วย อาจจะมีการพูดคุย และมีวิธีการที่จะทำให้เขาเห็นด้วยกับเรา .. แล้วพอจัดต้องทำให้เห็นความแตกต่าง คือ มันเป็นระเบียบ โล่งมากที่สุด เพื่อรองรับวัยเกษียณไม่ให้เดินเหินแล้วเกิดอันตราย’
หัวใจสำคัญของการจัดระเบียบบ้านผู้สูงอายุในความเห็นของคุณอิมมีอยู่ด้วยกัน 3 ประการคือ สะดวก เน้นการใช้งาน และหาของเจอ
‘ เราทำให้ผู้สูงวัยเห็นว่ายังเห็นของเหล่านี้อยู่ ใช้สอยได้ แต่เจริญหูเจริญตามากขึ้น ได้พื้นที่บ้านกลับคืนมา และหาของเจอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ตรงกันข้ามกับผู้ป่วยโรคสะสมของ กระบวนการทิ้งหรือการสละของได้จะเป็นหัวใจสำคัญมากกว่า’
กระบวนการที่รื้อบ้านและนำของทุกอย่างมาให้ผู้สูงวัยได้ดูในแต่ละชิ้น และปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับของชิ้นนั้น นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และได้รับความไว้วางใจแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ผู้สูงวัยแต่ละคนก้าวผ่านความทรงจำ และรู้จักที่จะสละของบางอย่างออกไปได้
‘ผู้สูงวัยเติบโตมา 60-70 ปี แบกอะไรมาบ้าง ของเหล่านี้เหมือนภาระที่มันล้นออกมา เพราะฉะนั้นในช่วงระยะบั้นปลายชีวิตถ้ารู้จักที่จะเลิกแบก มันหนักมาหลายสิบปีแล้ว อยากโล่ง เบา .. การจัดระเบียบบ้าน ในมุมหนึ่ง คือสอนให้คนปล่อยวางได้มากขึ้น สอนให้เราพร้อมที่จะสละ เราได้ทั้งการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะสละ เพราะเรามีการต่อคิวรอจัดบ้าน พูดคุยกันก่อนก็มีเวลาทำใจ ส่วนวันที่มาจัดจริงๆ มันคือการสละได้เฉียบพลัน บางทีมันก็เหมือนธรรมะนะ บางคนบอกว่า เหมือนยกภูเขาออกจากอกเขาได้’
งานจัดระเบียบบ้าน .. งานที่เข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คน
การจัดระเบียบบ้านไม่ใช่แค่การทำความสะอาดบ้าน
‘คือการรื้อบ้าน 100% มันเหมือนว่าเราเข้าไปอยู่ในชีวิตคนๆ นั้น บางครั้งเราเห็นและรู้อะไรมากกว่าที่ลูกหลานรู้อีก เพราะเรารื้อทุกอย่าง เราเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ ซึ่งบางครั้งไม่มีใครได้เห็นสิ่งเหล่านั้น ..’
การจัดระเบียบบ้านสำหรับผู้สูงอายุยังสามารถแบ่งเป็นช่วงชีวิตต่าง ๆ ได้คร่าวๆ อีกคือ การจัดระเบียบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ การจัดระเบียบบ้านสำหรับผู้สูงวัยที่ใกล้ตาย ( Death Cleaning ) และการจัดระเบียบบ้านสำหรับผู้สูงวัยที่เสียชีวิตแล้ว
‘สำหรับคนที่สิ้นใจไปแล้ว ส่วนใหญ่คือทำให้โล่ง หรือการหาของ เพราะบางคนไม่ได้แจ้ง ไม่ได้เขียนพินัยกรรม เกิดปุบปับกะทันหัน หรือฉุกเฉย ไม่ได้แจ้งกับญาติ ก็ต้องหาเอกสารสำคัญ หรือสิ่งสำคัญเพื่อส่งคืน
ส่วน Death cleaning ก็จะเป็นลักษณะการเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด และเหลือของที่จำเป็นในปัจจุบันจริงๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระ เพื่อให้คนป่วยรู้ว่าจะเอาของให้ใครต่อไป จะได้ไปแบบสะอาดหมดจด ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แต่เคสคนที่จะทำ Death cleaning นี้จะมีมาน้อย หรือยากเพราะว่าทำใจไม่ค่อยได้กันค่ะ’
จากการคลุกคลีและประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้คุณอิมผลักดันด้วยพลังของตนเอง เพื่อให้คนได้เห็นถึงความสำคัญของการจัดระเบียบบ้านสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น โดยมองว่ามันเป็นวาระสำคัญ ที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่คนมักจะมองข้าม แต่มีคนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนอยู่อีกมาก
‘ สำหรับผู้สูงอายุ มันคือเรื่องสุขภาพจิตค่ะ นี่คือหัวใจสำคัญของการจัดระเบียบบ้านของผู้สูงอายุ เมื่อจัดระเบียบได้สิ่งที่จะได้คือสุขภาพจิต สุขภาพกาย และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพักผ่อน และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ’
เกี่ยวกับแมวบิน
แมวบินเปิดมาปีกว่าๆ แล้ว จากจุดเริ่มต้นที่คุณอิมเป็นคนเก่งงานบ้าน และจัดเก็บบ้านมาทั้งชีวิต เมื่อเห็นว่าธุรกิจดังกล่าวยังไม่มีในเมืองไทย จึงได้ลงมือทำ และพบว่าเสียงตอบรับดีมาก ปัจจุบัน (เดือนตุลาคม 66 ) มีผู้จองคิวมากกว่า 300 คิว ยาวไปจนถึงกลางปีหน้า โดยตั้งแต่เปิดธุรกิจมามีเคสเกี่ยวกับผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20% ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี
ขอขอบคุณ
https://www.facebook.com/meawbinhome/
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.