แพทย์เตือน โรคจิตหลงผิด ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ

โรคจิตหลงผิด ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ

การที่เรามีความเชื่อหรือความคิดเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากความเชื่อหรือความคิดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง อาจเข้าข่าย “โรคจิตหลงผิด” ซึ่งเป็นภัยเงียบที่รุนแรง เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าตัวเองปกติดี จึงไม่มองหาหรือต้องการความช่วยเหลือ และไม่ได้รับการรักษาในที่สุด

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์ โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า โรคจิตหลงผิด (Delusional Disorder) เป็นโรคทางจิตเวชที่ผู้ป่วยจะมีอาการผิดปกติทางความคิด มีความเชื่อที่ผิดไปจากความเป็นจริงเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน โดยพบว่าผู้ป่วยโรคนี้จะไม่มีอาการประสาทหลอนเด่นชัดเหมือนผู้ป่วยโรคจิตเภท

สาเหตุของการเกิดโรคจิตหลงผิดไม่ได้มีการระบุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามักเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ พันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคจิตเภทหรือโรคทางจิตเวชบางชนิด ก็มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากขึ้น, ปัจจัยด้านชีวภาพ เป็นความผิดปกติของสมอง ระบบสื่อประสาท หรือสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลทำให้เกิดอาการหลงผิดได้, ปัจจัยด้านจิตใจและสังคม เชื่อว่าการเลี้ยงดูและประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็ก อาจส่งผลให้มีการใช้กลไกทางจิตที่ทำให้เกิดอาการตามมานอกจากนี้ยังพบได้ในผู้ที่มีความเครียดสูง หรือได้รับความกดดันจากสภาวะทางสังคมสูงเช่นกัน

5 ประเภท โรคจิตหลงผิด

  1. Erotomanic type คือ การหลงผิดคิดว่ามีคนมาหลงรักตัวเอง โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักร้อง เป็นความรักที่คิดไปเองคนเดียว บุคคลเหล่านั้นไม่ได้รู้เรื่องด้วย
  2. Grandiose type หรือประเภทหลงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ คือ การหลงผิดคิดว่าตัวเองมีอำนาจ เป็นผู้มีอิทธิพลหรือเป็นคนสนิทเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ มีพรสวรรค์หรือมีพลังวิเศษบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
  3. Jealous type หรือประเภทหึงหวง คือการหลงผิดว่าคนรักของตัวเองกำลังนอกใจ ไม่ซื่อสัตย์ โดยไม่มีหลักฐานหรือเหตุผล
  4. Persecutory type หรือประเภทหวาดระแวง คือการหลงผิดคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย กลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา อาจหลงผิดไปไกลจนถึงขั้นไปแจ้งความดำเนินคดีผู้อื่นทั้ง ๆ ที่ตัวเองเข้าใจผิดไปเอง
  5. Somatic type หรือประเภทเจ็บป่วยจากจิตสั่ง คือการหลงผิดเกี่ยวกับร่างกายหรือรูปร่างของตัวเอง เช่น คิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคอะไรบางอย่าง แต่แพทย์ตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ หรือคิดว่าตัวเองมีกลิ่นเหม็นตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่ปกติดี

ด้วยความที่ผู้ป่วยโรคจิตหลงผิดมักคิดว่าตัวเองปกติดี จึงยากที่จะทำให้ตัวผู้ป่วยเข้ารับการช่วยเหลือหรือเข้าสู่กระบวนการรักษา แต่คนใกล้ชิดหรือครอบครัวก็ไม่ควรละเลยและปล่อยให้ผู้ป่วยมีอาการของโรคต่อไปเรื่อย ๆ ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เข้าใจ และรับฟังสิ่งที่ผู้ป่วยคิดโดยไม่โต้แย้ง แต่ก็ไม่สนับสนุนความหลงผิดนั้น รวมถึงให้กำลังใจผู้ป่วยหากมีความเครียดหรือมีอารมณ์รุนแรงที่เป็นผลมาจากความหลงผิดนั้น

เมื่อผู้ป่วยไว้วางใจคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดแล้ว แนะนำให้พามาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย เช่น การรับประทานยา หรือการทำจิตบำบัดเพื่อแก้ไขอาการและทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น มองเห็นความเป็นจริงที่เป็นไปตามความจริงมากขึ้น รวมถึงช่วยปรับความคิดและพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้กลับมาดีดังเดิม

ทั้งนี้ โอกาสหายของโรคจิตหลงผิดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ มักมีอาการดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.