TAG Heuer แต่งตั้ง Liu Haoran เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด

TAG Heuer ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชื่อดังของสวิส ยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Liu Haoran เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด ปัจจุบัน Liu Haoran อายุเพียง 26 ปี ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในด้านทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมและสไตล์ที่โดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นจีน

จากบทบาทของเขาในฐานะเด็กชาย ซงเกอ ในชั้นเรียนในเรื่อง Beijing Love Story จนถึงบทบาทนักสืบหนุ่ม 'ฉินเฟิง' ในเรื่อง Detective Chinatown ผู้ประกอบการหนุ่มไฟแรง 'เว่ยจินเป่ย' ในเรื่อง Coffee or tea? และนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ 'อู๋เรินเย่า' ในเรื่อง Only Fools Rush In Liu Haoran ได้สวมบทบาทในหลากหลายตัวละครที่สร้างความประทับใจและโดดเด่นมากมายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และยังเป็นที่รู้จักด้วยไลฟ์สไตล์สบาย ๆ และความมั่นใจ รวมถึงความหลงใหลในด้านกีฬา และการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดยั้งของเขา ที่สามารถสะท้อนค่านิยมของ TAG Heuer ได้อย่างเต็มเปี่ยม

ความสัมพันธ์ของ Liu Haoran กับ TAG Heuer อาจถูกกำหนดไว้แล้วเมื่อเขาเลือกใช้ชื่อ "Turbo" เป็นชื่อภาษาอังกฤษของเขา ความหมายเดิมของ Turbo นั้นยังหมายถึงส่วนประกอบที่สำคัญในเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถแข่ง ตัวเลือกนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของเขา TAG Heuer ซึ่งมีประวัติศาสตร์และมรดกยาวนานกว่า 164 ปี มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับโลกแห่งการแข่งรถ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่แบรนด์ให้การสนับสนุนทีม F1 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นักแข่งระดับตำนาน และสนามแข่งอันเป็นเอกลักษณ์มาโดยตลอด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความหลงใหลร่วมกันนี้สร้างความประทับใจต่อ Liu Haoran

Liu Haoran ได้กล่าวถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่วมงานกันในครั้งนี้ว่า "TAG Heuer มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านการผลิตนาฬิกา และเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างมอเตอร์สปอร์ตเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผมอย่างมากเช่นกัน เรามีค่านิยมร่วมกัน ทั้งการแสวงหาความท้าทายให้กับตัวเองอยู่ตลอดและพร้อมการก้าวข้ามขีดจำกัด ทำให้การร่วมงานกับ TAG Heuer เป็นการตัดสินใจโดยสัญชาตญาณและน่าตื่นเต้นสำหรับผมครับ”

ในแคมเปญโฆษณาแรก Liu Haoran ได้สวมนาฬิกา TAG Heuer Carrera Chronograph Year of the Dragon รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี 2024 ที่ใกล้เข้ามาถึง 

TAG Heuer ผนึกกำลังกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่จากประเทศจีน เพื่อนำเสนอนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ที่ผสมผสานความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรมจีนและดีเอ็นเอการแข่งขันของแบรนด์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางครั้งใหม่ในประเทศจีน

TAG Heuer Carrera เปิดตัวในปี 1963 เป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งรถ สร้างสรรค์โดย Jack Heuer และตั้งชื่อตามการแข่งขันบนถนน Carrera Panamericana ในปี 1950 ปัจจุบัน นาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์เรือนนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยาน ความสำเร็จ และรสนิยมอันประณีต TAG Heuer Carrera Chronograph รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น the Year of Dragon รังสรรค์จากทองคำและสตีล เพื่อแสดงความเคารพต่อความสำเร็จที่เกิดจากมังกรจีน ซึ่งคล้ายคลึงกับเรื่องราวความสำเร็จของ TAG Heuer Carrera อย่างสมบุูรณ์แบบ นาฬิกาในเวอร์ชั่นสตีลมีหน้าปัดสีเงินขัดเงาแบบซันเรย์ ในขณะที่เวอร์ชันสีทองเปล่งประกายด้วยหน้าปัดเคลือบโรสโกลด์ 18K 5N ขัดเงาแบบซันเรย์ ทั้งสองเรือนประดับด้วยหลักบอกเวลาเคลือบผิวด้วยโรเดียมและหลักบอกเวลาเคลือบผิวด้วยโรสโกลด์ 18K 5N ที่เสริมด้วยการเคลือบแล็คเกอร์สีแดงอันหรูหรา ทำให้เกิดการผสมผสานอย่างลงตัว หน้าปัดย่อย “azuré” สีแดงอันโดดเด่น ณ ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา เพิ่มความแตกต่างอันน่าหลงใหลให้กับหน้าปัด 

 เมื่อมองกลับด้านยังปรากฏให้เห็นรูปแพนด้าอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

ตัวอักษรจีนสื่อถึงมังกรที่ประดิษฐ์ขึ้นมาโดยเฉพาะอย่างวิจิตร มอบความรู้สึกสุขุม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ทั้งนี้ มังกรยังแสดงถึงความเกี่ยวพันอย่างแน่นแฟ้นในวัฒนธรรมจีน พร้อมปลุกพลังและความมั่งคั่ง โดยนาฬิกาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องจารึกที่สรรเสริญต่อประเพณีอันยาวนาน แต่ยังเป็นแบบอย่างของความมุ่งมั่นในเจตจำนงของแบรนด์ TAG Heuer ที่เคารพต่อดีไซน์ดั้งเดิมที่ยังคงแฝงอยู่ในการออกแบบร่วมสมัย ดีไซน์ฝาหลังยังถูกปรับแต่งให้เห็นภาพพิมพ์สัญลักษณ์มังกรจีนรอบบริเวณกระจกแซฟไฟร์ ตลอดจนสลักประโยคพิเศษเพื่อบ่งบอกถึงการเปิดตัวในจำนวนจำกัดอย่าง "Limited Edition" เสริมด้วยประโยค "One of 300" สำหรับรุ่นสตีล และประโยคสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "One of 50" สำหรับรุ่นโรสโกลด์ 18K 5N

เริ่มต้นการเดินทางของปีใหม่กับการทำงานร่วมกันระหว่าง TAG Heuer และ Liu Haoran ช่วยเติมความมีชีวิตชีวาให้กับแบรนด์ และช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นอีกมากมายที่จะถูกเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้บุกเบิกแห่งความก้าวหน้าสู่ผู้ชมทั่วโลก