เทศกาลดนตรีสัญชาติไทย 'เศรษฐกิจสร้างสรรค์' ที่ใครก็ไม่ควรมองข้าม

และนี่คือบทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับ ‘น้ำ ฝากฝัน ศรีสันติสุข’ แห่งแบรนด์ GFest ทีม Showbiz ภายใต้สังกัด GMM Show ผู้อยู่เบื้องหลังคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีที่กลายเป็นเช็คลิสต์ของใครหลายคนอย่าง Rock Mountain Music festival ที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์สร้างสรรค์ และประสบการณ์ทางดนตรี

มากกว่าการทำโชว์ ... เทศกาลดนตรีคือการสร้างประสบการณ์

‘ สิ่งที่น้ำรับผิดชอบคือการสร้างประสบการณ์ให้คอดนตรี ดูทุกอย่าง ตั้งแต่คิดคอนเซปต์ ไดเรคชั่น ครีเอทีฟ โปรดิวเซอร์ ควบคุมงานออกมาให้ออกมาอย่างที่ควรจะเป็น

เราสร้างพื้นที่ให้คนชอบดนตรีมาอยู่ร่วมกัน สร้างประสบการณ์ให้ทุกคนได้รับประสบการณ์เดียวกัน ดีไซน์ว่าให้เขาเจออะไรในนั้น ดูโชว์แบบไหน ได้ประสบการณ์ฟังเพลงหรือใช้ชีวิตหนึ่งวันในงานเทศกาลดนตรี ที่เขาอยู่กับเราให้เป็นยังไง และได้เป็นตัวกลางให้ศิลปินและคนที่ชื่นชอบได้เชื่อมต่อกัน’

คุณน้ำยืนยันว่าเทศกาลดนตรี เป็นมากกว่าการครีเอทโชว์บนเวทีหรือแตกต่างจากการจัดคอนเสิร์ตทั่วไป

‘ เทศกาลดนตรีไม่ใช่แค่โชว์ แต่เป็นการเอาคนรักดนตรีมาใช้ชีวิตร่วมกันด้วย เราต้องคิดมากกว่าคอนเสิร์ต เราคิดหมดไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ห้องน้ำ จุดถ่ายรูป จุดกิน ป้าย การเดินทาง การจอดรถ มันคือประสบการณ์ของการใช้ 1 วันมาอยู่กับเรา เราเป็นคนจัดงาน เราต้องดูแลทั้งหมด .. ซึ่งการทำให้คนดูสนุกกับเราตั้งแต่ต้นจนจบทั้งวันมีสองเรื่องที่ต้องดูคือ การทำโชว์ศิลปินให้คนมาดูสนุกด้วยกันไปตลอดจนจบ รวมไปถึงการดูแลประสบการณ์อื่นๆ เพราะแค่ไปแล้วเจอห้องน้ำเต็ม เจอคนเยอะเบียดเสียด บางคนก็อยากกลับบ้านแล้ว ’

สำหรับ Rock Mountain Music Festival ซึ่งเป็นงานที่คุณน้ำปลุกปั้นมาตั้งแต่ Day 1 เริ่มต้นจากความอยากที่จะทำให้เทศกาลเพลงร็อคไม่ใช่แค่การรวมวงดนตรี

‘ ปีแรกเราทำงานกับพี่กบ Big Ass  เราก็คุยกันว่าปกติเทศกาลดนตรีร็อค ก็เหมือนเอาศิลปินมาเล่นรวมๆ แต่เราอยากจะทำแตกต่างออกไป เราจะทำยังไงได้บ้าง เราก็ไปเจอกับสถานที่นี้ ซึ่งแตกต่างจริงๆ ได้ไปอยู่ในพื้นที่ที่มีเสน่ห์ อากาศดี แตกต่างจากที่อื่น และสามารถรองรับงานสเกลขนาดใหญ่ได้’

พื้นที่ที่พูดถึงนี้ คุณน้ำเรียกว่าเป็น ‘อัฒจันทร์ธรรมชาติ’  ตั้งอยู่ที่ Jolly Land เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งสามารถทำให้คนร่วมงานนั่งดูเหมือนอยู่บนอัฒจันทร์ และแอ่งตรงกลางคือเวทีการแสดง นอกจากนี้ยังมีฉากเป็นภูเขารูปทรงแปลกตาและเวลาจัดงานที่อยู่ในฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย

‘ เราเกิดเป็นความคิดว่า ถ้าอยากชวนชาวร็อคออกมาต่างจังหวัดทั้งที ก็อยากให้พวกเขาได้ฟีลลิ่งของการปลดปล่อย รีแล็กซ์ ไม่อยากให้เหมือนที่อื่น อยากให้เป็นพรีเมียม ร็อค เฟสติวัล เราเลยคิดว่าควรมีธีมที่แตกต่างออกไปในแต่ละปี’

จากนั้น ในปีแรกเทศกาลจึงมีคอนเซ็ปต์ คือ ‘ปราสาทร็อค’ ที่ได้เนรมิตฉาก แสงสี สเกลใหญ่จัดเต็ม จนเรียกเสียงฮือฮาจากคนมาร่วมงาน รวมไปถึงความโดดเด่นเรื่องซาวด์ ที่ไม่ว่าอยู่ตรงไหนของเทศกาลก็สามารถเสพย์ดนตรีในคุณภาพใกล้เคียงกัน

ส่วนในปีนี้เป็นปีที่ 3  ... Rock Mountain Music Festival 2024 จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ UFO อวกาศแห่งความร็อค ที่คุณน้ำบอกว่า

‘ทำให้เขารู้ว่าถึงจะมาทุกปี แต่ละปีก็จะได้รับประสบการณ์ไม่เหมือนกันแน่นอน’

‘ คอนเซ็ปต์ UFO อาจเป็นสิ่งที่ถูกใช้เรื่อยๆ แต่ที่นี่จะไม่เหมือนเดิม ทั้งเวที โชว์ ที่จะได้เห็น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และ คนดูจะได้ประสบการณ์ทางดนตรี ที่ไม่เหมือนกับที่ไหน  ’  คุณน้ำยืนยัน

ความคิดสร้างสรรค์ หัวใจของการสร้างเทศกาลดนตรีที่คนชื่นชอบ และ Sold Out ในการเปิดขายเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง!

ทุกวันนี้ ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ เป็นเรื่องที่ถูกนำมาพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้นึกไปถึงคำกล่าวหนึ่งที่ว่า ‘ถ้าขาดความคิดสร้างสรรค์ ทุกอย่างก็จะเหมือนกันไปหมด’ และถ้าหากประเทศอยากที่จะผลักดัน ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’  การพูดคุยกับคนที่ต้องอยู่กับการสร้างสรรค์มาอย่างตลอด จึงได้แง่มุมที่น่าสนใจอยู่เสมอ

‘ ในปีที่สามนี้ เราโปรโมทแต่แรกว่าคอนเซ็ปต์นี้ (UFO)  เราสร้างสตอรี่ให้มัน เราชวนทุกคนเดินทางมาจากทุกที่เพื่ออยู่ใน พื้นที่ยานอวกาศเดียวกัน พระเอกก็คือแน่นอนมี UFO อยู่กลางป่า ทุกคนจะแต่งตัวมาอยู่รวมกัน เราเชื่อว่าปีนี้จะมีคนแต่งชุดเอเลี่ยน คนใส่ชุดสีแนวเมทัลลิกมาแน่นอน มันต้องมีใครเห็นคอนเซ็ปต์นี้แล้วอยากร่วมสนุก และโชว์ของเราก็จะเล่าเรื่องเหมือนเราพาคุณออกจากที่ๆ อยู่ไปนอกโลกกับเรา หมายความว่าฉาก สตอรี่ การเล่าเรื่องภายใต้ธีมนี้ รวมถึงการแสดงของศิลปินก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งศิลปินตื่นเต้นมากและคุยกันแล้วว่าจะเตรียมอะไรดีที่จะพิเศษไปกว่าเดิม เช่น เสื้อผ้า ลิสต์เพลงต่างๆ’

สำหรับปีนี้มีศิลปินแนวหน้าชาวร็อคร่วมการแสดงเพียบ ไม่ว่าจะเป็น BODYSLAM / COCKTAIL / JOEY PHUWASIT / LOMOSONIC / MODERNDOG / NUM KALA / POTATO / SLOT MACHINE / TAITOSMITH / THREE MAN DOWN

การจัดเทศกาลดนตรีที่มีคอนเซ็ปต์ของตัวเองอย่างชัดเจนมาโดยตลอด ทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดีย และเกิดฐานแฟนคลับเยอะขึ้นมาในทุกๆ ปี มีการบอกต่อ หรือ Tag ต่อเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ใช่แค่การฟังดนตรีด้วยกัน แต่มันคือการเข้าไปอยู่ในประสบการณ์เจ๋งๆ ร่วมกัน  ... จนทำให้บัตรที่เปิดขายนั้น Sold out แค่เพียงระยะเวลาการเปิดขายเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง!

‘ เราได้เห็นคนที่ชื่นชอบต่องานเรา เราใส่ความพยายามลงไปมากตั้งแต่ปีแรก เราพยายามสร้างแบรนด์ใหม่ คอมมิวนิตี้ใหม่ แล้วมันก็เติบโต เราได้เห็นอย่างชัดเจนว่าปีนี้พอปล่อยไป มีคนชวนกันเองว่าห้ามพลาดนะ มีแฟนคลับที่ต้องไป ตอนนี้มีคนติดตามและรอคอย มันก็ชุ่มชื่นใจในมุมที่เราเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จนั้น แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์ตั้งแต่วันแรก แต่เราก็ได้พัฒนาขึ้นจากความคิดเห็นของคนที่ทำงานร่วมกันและคนดู  พอเข้าปีที่ 3 น้ำรู้สึกว่ามันชัดเจนแล้วว่าทิศทางควรจะเป็นทางไหน เราได้ความสุขและก็ได้พัฒนาตัวเองไปด้วย เหมือนเราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับงานที่เราสร้าง’

เทศกาลดนตรีกระตุ้น เศรษฐกิจ - ซอฟต์พาวเวอร์ ศิลปินไทย

สำหรับประเทศไทยจุดเริ่มต้นของเทศกาลดนตรีเริ่มจาก Big Mountain Music Festival ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 (ไม่นับปีที่ต้องเจอกับวิกฤตโควิด 19 ซึ่งงดการจัด) หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นเทศกาลทางดนตรีในประเทศไทยเกิดเยอะขึ้นมาก แต่ละเทศกาลดนตรีก็มีความแตกต่างกันทั้งแนวเพลง กลุ่มอายุ หรือพื้นที่ทั่วประเทศไทย ที่สามารถให้ทุกคนที่ชอบดนตรีเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังมีการซื้อลิขสิทธิ์จากเมืองนอกมาจัดที่ไทย ซึ่งคุณน้ำบอกว่า โดยรวมแล้วตลาดประเทศไทย เป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับ ‘เทศกาลดนตรี’ และมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับโลก

เราจึงถามคุณน้ำว่าแล้ว ‘เทศกาลดนตรี’ พอจะมีส่วนช่วยเรื่อง ซอฟต์พาวเวอร์ ได้บ้างหรือไม่?

‘ น้ำว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของวงการดนตรี เทศกาลดนตรีคือที่รวมของศิลปินที่มาแสดงรวมกัน เพราะฉะนั้นเราว่ามันสามารถทำได้หลายทาง ที่ช่วยกันเรื่อง softpower  ได้ตั้งแต่ไปจัดที่ต่างประเทศเพื่อให้รู้จักดนตรีไทยมากขึ้น หรือเชิญมาชมที่บ้านเราเพื่อให้ได้เห็นศิลปินไทย และพาศิลปินไทยไปให้ต่างประเทศรู้จัก คือทำยังไงให้คนต่างชาติเข้ามาชอบศิลปินไทย 

เราว่าศิลปินไทยเก่งมาก มีความเก่งหลากหลาย น้ำได้มีโอกาสไปเทศกาลดนตรีต่างประเทศ ศิลปินไทยได้รับคำชมจากคนที่ทำเทศกาลดนตรีทั่วโลกเยอะมาก ในด้านการแสดงเห็นโชว์รู้เลยว่าโดดเด่นและแตกต่าง น้ำว่าศิลปินไทยเก่งอยู่แล้ว พร้อมที่จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ออกไปต่างประเทศแน่นอน .. แต่การสร้างนโยบายหรือกลยุทธ์อย่างไรเพื่อให้เขาได้เป็นที่รู้จักบนเวทีโลก เป็นส่วนที่เราต้องช่วยกันผลักดันไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่บริษัทหรือตัวศิลปินเท่านั้นที่ทำ แต่ก็ต้องมีการสนับสนุนทั้งเรื่องเม็ดเงินที่ต้องลงทุนเยอะ หรือระบบต่างๆ '

คุณน้ำได้ยกตัวอย่างศิลปินบางคนอย่าง ‘บิวกิ้น’ หรือ ‘ไบร์ท-วิน ที่สามารถสร้างฐานแฟนคลับตนเองในต่างประเทศได้ จนทำให้เกิดคอนเสิร์ตในประเทศไทย และมีแฟนคลับบินไกลเพื่อมาร่วมงาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

‘ ถ้าทำได้ คนต่างชาติมาร่วมงานเทศกาลดนตรี ไม่ได้เฉพาะแค่เรื่องดนตรีแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของ Music Tourism ได้เลย ได้ทั้งเรื่องเศรษฐกิจในพื้นที่หรือเรื่องอื่นๆ เราสามารถใส่เนื้อหาอื่นๆ ลงไป ที่มากกว่าแค่เรื่องดนตรี ดนตรีอาจเป็นจุดชักจูงคนมาได้ แต่ก็สามารถชวนให้คนเข้ามารู้จักประเทศไทยในมุมอื่นๆ ได้เช่นกัน เพราะถ้ามาก็ไม่ใช่แค่วันเดียว แต่มาหลายวัน’

เมื่อจบบทสัมภาษณ์ เราเห็นได้ถึงพลังของการสร้างสรรค์ ที่ถูกนำมาใช้ในงานเทศกาลดนตรีครั้งนี้ และได้เห็นมุมมองที่ดี ที่ทุกฝ่ายอยากที่จะช่วยเหลือและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ด้านดนตรีไปร่วมกัน อย่างไรก็ตามสิ่งแรกที่ควรทำคือ การทำให้ชาวต่างชาติชอบศิลปินไทย นั่นคือหัวใจและด่านสำคัญ ส่วนงานเทศกาลดนตรีเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่พร้อมจะผลักดันและสร้างเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ได้อีกทางหนึ่งต่อไป ...

‘แต่ต้องเลือกให้ถูกว่าควรจะไปในทิศทางไหน เพราะตลาดนี้ใหญ่มาก’ คุณน้ำกล่าวทิ้งท้าย.

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเทศกาลดนตรี Rock Music Festival 2024 ได้ที่

https://www.facebook.com/gfestTH/