8 สัญญาณอาการ “มะเร็งตับ” ที่เราต้องสังเกตตัวเอง

ในเมืองไทยพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับมากถึง 14,000 คนต่อปี  มีอัตราการเป็นมะเร็งตับต่อ 100,000 ประชากรเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ที่แย่ไปกว่านั้น ผู้ป่วยมะเร็งตับยังมีโอกาสรอดจากมะเร็งตับนั้นมีเพียง 13% เท่านั้น นั่นหมายความว่าผู้ป่วยมะเร็งตับมีโอกาสที่จะเสียชีวิตมากถึง 87% เลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกว่ามะเร็งตับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1

  • ทำไม “มะเร็งตับ” ถึงคร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด?

มะเร็งตับ มีสาเหตุมาจากอะไร?

  • ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของมะเร็งตับ มาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิต การดื่มกินอาหารของเราเองนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น
  • ดื่มแอลกอฮอล์จัด
  • ทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ที่เสี่ยงต่อพยาธิใบไม้ตับ
  • ทานอาหารที่อาจมีส่วนประกอบของดินประสิว เช่น ปลาร้า ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก กุนเชียง เนื้อเค็ม
  • ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วไม่ยอมไปรับการรักษา จนปล่อยให้ตับติดเชื้อเรื้อรัง ตับอักเสบเป็นเวลานานๆ
  • รับสารพิษ “อะฟลาทอกซิน” เป็นเวลานาน (พบได้ในถั่วที่เก็บรักษาไม่ดี และอาหารแห้งอื่นๆ)
  • รับสารเคมีบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น การรับฮอร์โมนเพศชายเป็นเวลานาน
  • เป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 หรือเป็นผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน/เป็นโรคอ้วน

สัญญาณอาการอันตรายของโรคมะเร็งตับ

สาเหตุที่โรคมะเร็งตับอันตราย และน่ากลัวกว่าที่เราคิด เพราะระยะแรกๆ จะยังไม่แสดงอาการอะไรเลย จนกระทั่งเริ่มมีอาการมากๆ ซึ่งสามารถสังเกตตัวเองได้ ดังนี้

  1. ปวดท้องบริเวณท้องขวาส่วนบน

  2. ท้องบวมขึ้น

  3. น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

  4. เบื่ออาหาร

  5. อ่อนเพลีย

  6. มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ

  7. คลำพบก้อนที่บริเวณตับ (ท้องขวาส่วนบน)

  8. ตัว และตาเหลือง

ปัจจัยใดที่ช่วยเสริมให้เกิด 'มะเร็งตับ' ?

ปัจจัยเสริมที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งตับนั้นก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน โดยเบื้องต้นจะมาจากภาวะตับแข็งด้วยสาเหตุต่างๆ มีปัจจัยที่พบได้บ่อย คือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซี และภาวะตับแข็งจากการดื่มสุรา นอกจากนั้นาภาวะตับแข็งก็ยังอาจเกิดการที่ไขมันไปเกาะตับ , ภาวะที่มีโลหะสะสมอยู่ในตับ อาทิ ทองแดง เหล็ก , ภาวะที่ภูมิคุ้มกันต่อต้านตับของตนเอง , การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซินจากเชื้อราที่พบในอาหารแห้ง เช่น ถั่วลิสง หรือพริกแห้งป่น , ภาวะโรคเบาหวานและการได้รับสารกำจัดศัตรูพืชเข้าสู่ร่างกาย โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่เสริมให้เกิดมะเร็งตับได้ง่ายขึ้น

ใครที่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรอง 'มะเร็งตับ' ?

ถึงแม้เราจะยังไม่ทราบว่าตัวเราเองนั้นเป็นมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นหรือไม่ แต่การเข้ารับการตรวจคัดกรองก็เพื่อให้ผู้ที่พบว่าป่วยเป็นมะเร็งตับได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสที่จะหายจากโรคนี้และลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งบุคคลที่สมควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมีดังนี้

  1. ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีชนิดเรื้อรัง หรือมีญาติทางสายเลือดตรงป่วยเป็นมะเร็งตับ
  2. ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบชนิดซีเรื้อรังและได้มีการตรวจพบพยาธิสภาพอของเนื้อตับว่ามีพังผืดอยู่มาก
  3. ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี เป็นเพศชายที่มีอายุมากกว่า 40 ปี และเพศหญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
  4. ผู้ป่วยทุกรายที่มีอาการตับแข็ง โดยที่การเกิดมะเร็งนั้นจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของการเกิดภาวะที่ทำให้ตับแข็ง

มะเร็งตับ มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

การรักษาโรคมะเร็งตับ สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาวะความรุนแรงของโรค  ขนาดและลักษณะของเซลล์มะเร็ง สุขภาพของผู้ป่วย และอื่นๆ

วิธีรักษาได้แก่ ผ่าตัด ฉายรังสี เคมีบำบัด และการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ (ขนาดก้อนในตับต้องน้อยกว่า 5 เซนติเมตร และผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 70 ปี)

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.