LHHOTEL เคาะราคาหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน 10 บาทต่อหน่วย เปิดจองซื้อ 24-27 ต.ค.นี้
นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า หลังจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) ได้เสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิจองซื้อในวันที่ 16-20 ต.ค.2566 ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี
ล่าสุด LHHOTEL จึงกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ของหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนที่ 10 บาทต่อหน่วย และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อในวันที่ 24-27 ต.ค.2566 ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และผู้ร่วมจัดจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือน พ.ย.นี้
นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า กองทรัสต์ LHHOTEL ได้เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรม 2 แห่งในพัทยา ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา จาก บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ในเครือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH
โดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของ LHHOTEL แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิจองซื้อ ได้รับผลตอบรับที่ดีสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ ซึ่ง LHHOTEL เป็นกองทรัสต์กลุ่มโรงแรมชั้นนำที่มีมูลค่าทรัพย์สินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จะมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นกว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนภายหลังการเข้าลงทุนในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 10.5% ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ LHHOTEL ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายและเปิดประเทศ รวมถึงทรัพย์สินใหม่ที่จะเข้าลงทุนก็มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHHOTEL กล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นและนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของการลงทุนภายใต้ในกองทรัสต์ประเภทโรงแรมที่ได้รับผลบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว
อีกทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เข้าใกล้จุดสูงสุด ส่งผลดีต่อการลงทุนในกองทรัสต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทรัสต์ LHHOTEL ที่มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่ลงทุนแล้ว 3 โครงการในกรุงเทพฯ และกำลังเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ อีก 2 แห่งในพัทยา
นายณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHHOTEL กล่าวว่า กองทรัสต์ LHHOTEL มีทรัพย์สินในปัจจุบัน 3 โครงการ ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 มีห้องพักรวม 1,401 ห้อง
โดยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 ของโรงแรมทั้ง 3 แห่งดังกล่าว มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึงประมาณ 90% และค่าห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 กว่า 20% ขณะที่กองทรัสต์ LHHOTEL กลับมาจ่ายประโยชน์ตอบแทน (จ่ายปันผล) แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ตั้งแต่งวดไตรมาส 3/2565 โดยในช่วง 8 เดือนครึ่งของปี 2566 จ่ายปันผลแล้ว 0.88 บาทต่อหน่วย ถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์
ล่าสุดกองทรัสต์เตรียมลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ซึ่งเป็นการกระจายการลงทุนสู่พัทยาเป็นครั้งแรกและจะเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์อีกเท่าตัวเป็นกว่า 20,000 ล้านบาท ขณะที่อายุสิทธิการเช่าคงเหลือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 22 ปีเศษ จากเดิมประมาณ 18 ปีเศษ รวมถึงมีทรัพย์สินกระจายตัวดีขึ้น โดยอยู่ในกรุงเทพฯ 55% และพัทยา 45%
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.