น้ำมันพีคใกล้ 100เหรียญฯ 'PTTEP-PTT-โรงกลั่น'เด้งแรง ลุยต่อ รึ พอแค่นี้?
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PTTEP เช้านี้(28 ก.ย.66) อยู่ที่ 173 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท คิดเป็น +1.47%
ราคาหุ้น PTT อยู่ที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น +0.74%
ราคาหุ้น TOP อยู่ที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท คิดเป็น +1.52%
ราคาหุ้น SPRC อยู่ที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท คิดเป็น +2.17%
ราคาหุ้น BANPU อยู่ที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท คิดเป็น +3.87%
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุน หุ้นกลุ่มน้ำมันตั้งแต่ต้นเดือนราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ปรับตัวขึ้น 11% และ 12% ตามลำดับ หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า การที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ และรัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ระดับ 300,000 บาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีนี้ จะส่งผลให้Supply น้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัวไปจนถึงไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะที่วานนี้ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 943,000 บาร์เรล สู่ระดับต่ำกว่า 22 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ก.ค. 65 ยิ่งทำให้Supply น้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัวมากยิ่งขึ้น ประเด็นดังกล่าว ทำให้ราคาน้ำมันดิบยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Brent ปรับขึ้น 2.76% ปิดที่ระดับ 96.55 เหรียญฯ ดังนั้น SET Index น่าจะได้ประโยชน์ จากที่มีสัดส่วนหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น เกือบ 1 ใน 3 ของน้ำหนักตลาดฯ โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ PTT PTTEP TOP SPRC เป็นต้น
PTT-PTTEP-TOP-SPRC รับทรัพย์
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นแรงกว่า 11%Mtd หรือ 30%Qtd และยืนระดับสูงนานๆ ทำให้ความกังวลอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ Fed ยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินเชิงรุกได้ ดังนั้นต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอยู่เรื่อยๆว่าจะมีสัญญาณไปทิศทางไหน วึ่งวันพรุ่งนี้จะมีการรายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดอยู่ที่ 3.5%YoY (สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 3.3%YoY)
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยืนเหนือระดับ 95 เหรียญฯ จากความกังวล Supply ในตลาดน้ำมันตึงตัวขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวหนุนให้หุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น Outperform ตลาดได้ในวันนี้ โดยฝ่ายวิจัยฯแนะนำ PTT PTTEP TOP SPRC เป็นต้น
PTTEP ยิลด์สูง
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวเช่นกันว่า ราคาน้ำมันดิบทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี Brent +3.49%d-d ปิดที่ US$ 96.55/barrel น้ำมันดิบ West Texas +3.64%d-d ปิดที่ US$ 93.68/barrel หนุนจาก EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าตลาดคาดจะลด 900,000 บาร์เรล มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ โดยเฉพาะ PTTEP, PTT
โดย "หุ้น PTTEP" ราคาเป้าหมายปี67 ที่ 173.5 บาท แนวรับ 168 / 166.5 บาท แนวต้าน 172 / 174.5 บาท Stop Loss 165 ลุ้นราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับจาก ก.ค.66 เป็น Upside ต่อมุมมองกำไรปกติช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังลดทั้ง y-y เพราะปริมาณขายจากแหล่งพม่าและโอมานลดลง ประกอบกับ ASP ที่ลดลง ตามราคาน้ำมันดิบ (3Q23TD 80 $/bbl Vs. 2H22 เฉลี่ย 91 $/bbl) จาก supply ตึงตัวลดลง เพราะ U.S. ผลิตเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง ลดลง h-h เพราะ ASP ที่ลดลงตามราคาก๊าซฯ (ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน รวมถึงราคาก๊าซฯ PSC ใหม่ลดลง) กลบปริมาณขายที่ฟื้นตัวของแหล่งบงกช และ เอราวัณ โดยราคาหุ้น PTTEP ซื้อขายบน PER23F ที่ 10 เท่า และ div yield 5% ต่อปี
PTTEP - BANPU เด่น
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าแม้ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่อง โดย Dollar Index ทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.2565 ราคาน้ำมันดิบปิดบวกเฉลี่ย +3% DoD โดยน้ำมันดิบ Brent ทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 หนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบ ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรอง ณ จุดส่งมอบคุชชิง ลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล ถือว่าลดลงมากที่ตลาดและ API รายงานก่อนหน้า
โดยปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ระดับ 416 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค.2565 ท่ามกลางภาวะตลาดตึงตัวจากความร่วมมือลดปริมาณผลิตของซาอุฯ และรัสเซีย (การประชุม OPEC+ วันที่ 4 ต.ค. ตลาดคาดคงนโยบายลดการผลิต)
โดยทิศทางราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง และมาตรการแทรกแซงพลังงาน ฝ่ายวิเคราะห์มองกลุ่มพลังงานต้นน้ำ และโรงกลั่นจะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น "PTTEP" เพราะได้อานิสงส์การปรับขึ้นของราคาน้ำมันเต็มที่, สมมติฐานราคาน้ำมันเริ่มมี Upside และกำหนดการเดินทางไปกัมพูชาของคุณเศรษฐาในวันนี้ หากมีการพูดคุยถึงการกลับมาพัฒนาผลิตปิโตรเลียมบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังคงแนะนำทยอยสะสม "BANPU" เพราะความผันผวนจากการแปลงสภาพ W-5 เริ่มทยอยสิ้นสุด และการเข้าสู่ High Season ของการใช้พลังงานฤดูหนาวในไตรมาส 4/66 ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวโน้มกำไร 3Q66 ที่ดีขึ้น
ขายทำกำไร
นักกลยุทธ์ บล.ไอร่า(ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่ปิดที่ระดับ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล +3.29 ดอลลาร์ (+3.64%) โดยได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.16 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.60 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ในสหรัฐยังแข็งแกร่ง
อีกทั้งตลาดยังคงกังวลกับแนวโน้มอุปทานตึงตัวจากการที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และรัสเซียระงับการส่งออกไปจนถึงสิ้นปีนี้กระตุ้นความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกลยุทธ์ยังมองว่าราคาน้ำมันปรับตัวรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว มองเป็นโอกาสในการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาที่ปรับตัวขึ้น
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.