BAM มั่นใจครึ่งหลังปี 66 ผลการดำเนินงานดีกว่าครึ่งปีแรก

นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลัง ปี 2566 โดยคาดว่า จะมีผลดำเนินงานในครึ่งปีหลังดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อผลักดันให้ผลเรียกเก็บในปี 2566 นี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 17,800 ล้านบาท 

 

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายทรัพย์ให้กับรายใหญ่ประมาณ 2-3 ราย คาดว่า ดีลมีโอกาสจบภายใน 1-2 เดือนนี้ หากดีลดังกล่าวเป็นไปตามแผน จะช่วยหนุนให้กำไรมีผลเรียกเก็บโตสูงกว่า 50% สำหรับเป้าหมายผลเรียกเก็บในช่วงไตรมาส 3 บริษัทตั้งเป้าหมายที่ 4,500 ล้านบาท ไตรมาส 4 ที่ 5,400 ล้านบาท ส่งผลให้ผลเรียกเก็บในครึ่งหลังของปีนี้รวมทั้งสิ้น 10,500ล้านบาท หนุนผลการเรียกเก็บทั้งปี2566เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 17,800 ล้านบาท

 

“NPL Backlog รายใหญ่ 1,280 ล้านบาท  รายเล็ก 239 ล้านบาท ส่วน NPAs Backlog รายใหญ่ 483 ล้านบาท รายเล็ก 238 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้มีการอนุมัติราคาพิเศษสะสม เมื่อช่วงไตรมาส2/2566 เพื่อเร่งการหาย รวม 4,296 รายการ มูลค่า 10,550 ล้านบาท” นายบัณฑิต กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรก  ผลประกอบการโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทมีผลเรียกเก็บ 7,357 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีผลเรียกเก็บ 4,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ที่มีผลเรียกเก็บ 3,230 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% และมีกำไร 425 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 59%  จากไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 267 ล้านบาท

 

ด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ NPL ในครึ่งปีแรกบริษัทสร้างผลเรียกเก็บด้วยกลยุทธ์การสร้างโอกาสและเร่งการประนอมหนี้ โดยในช่วงครึ่งปีแรก สามารถดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ไปได้เป็นจำนวน 82 ราย คิดเป็นยอดประนอมหนี้ 131 ล้านบาท และยังได้เตรียมให้สิทธิพิเศษสำหรับฮีโร่ดังกล่าวที่ซื้อทรัพย์สินรอการขายของ BAM อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติในการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 146,121 ราย คิดเป็นภาระหนี้ 466,871 ล้านบาท และสามารถจำหน่ายทรัพย์ไปแล้ว จำนวน 49,216 รายการ คิดเป็นราคาประเมิน 107,319 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมี NPL อยู่ในความดูแล คิดเป็นภาระหนี้รวม 481,578 ล้านบาท และ NPA มูลค่าราคาประเมิน 69,275 ล้านบาท  

 

นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับหลักเกณฑ์การจัดตั้งกิจการร่วมทุนฯ (JV-AMC) ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการศึกษากับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่1แห่ง ส่วนการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพื่อขยายพอร์ตในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทได้เข้าประมูลซื้อหนี้ NPL มาบริหารจัดการ คิดเป็นภาระหนี้รวม 22,408 ล้านบาท เติบโต 296% ที่มีการซื้อทรัพย์มาบริหาร 5,658 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินมีการทยอยนำ NPL ออกมาประมูลขายในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างรอผลการประมูลและการทำ Due Diligence คิดเป็นภาระหนี้ 71,203 ล้านบาท
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.