BE8 เปิดแผนรายได้พุ่ง 5 พันล้าน ในปี 68 ก้าวเข้าสู่ SET100

นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2566 บริษัทคาดรายได้จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,233.71 ล้านบาท 

โดยทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ เป็นการเติบโตทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งมีรายได้ใหม่ๆ เกิดจากอีโคซิสเต็มส์ ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตร (JV) ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว ดังนั้นมั่นใจว่ารายได้ในปี 2566 จะทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 2,500 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หรือปี 2568 พร้อมก้าวสู่ SET100 โดยกลยุทธ์สนับสนุนเป้าหมายรายได้ดังกล่าว มาจาก 1.การร่วมมือกับพันธมิตร (JV) อย่างต่อเนื่อง 

หลังจากที่ผ่านมา บริษัทได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมการให้บริการด้านการขนส่งเอกสารสำคัญต่างๆ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของวงการรับ-ส่งเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Document บนโลกออนไลน์

นอกจากนี้ บริษัท ร่วมกับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK จัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม หรือ Green Tech 

รวมทั้ง บริษัท ร่วมกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท ออริจิ้น บีอีเอท จำกัด (ORIGIN BE8) เพื่อดูแลงานด้านเทคโนโลยี ครอบคลุมทั้งระบบหลังบ้านและหน้าบ้านทั้งหมดของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ 

“Joint Venture เราก็มีการพูดคุยกับหลายบริษัท น่าจะมีโอกาสให้เราได้ร่วมงานกับพันธมิตรอีกหลายอุตสาหกรรมในอนาคตเพื่อช่วยสร้างธุรกิจ new S-curve ด้วยการใช้เทคโนโลยี” นายอภิเษก กล่าว

2.การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งขยายไปในตลาดใหม่ๆ โดยบริษัทพร้อมที่จะพิจารณา และมองหาบริษัทที่มีความน่าสนใจ เพื่อดำเนินกลยุทธ์ร่วมกัน และสนับสนุนการเติบโตของบริษัท  

3.การขยายตลาดต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างเตรียมเปิดออฟฟิศที่ออสเตรเลีย หลังจากได้เปิดออฟฟิศที่เวียดนามไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้าน Digital Transformation ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

หลังจากบริษัทได้ขยายธุรกิจร่วมทุนใน 6 บริษัทผู้นำด้าน Tech ทำให้การสร้างระบบนิเวศที่มาจากการเชื่อมต่อหลายระบบ หลายบริการ เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ มีศักยภาพครบทุกมิติ สามารถสร้างบริการที่ครบวงจรเพื่อส่งมอบความสำเร็จให้ลูกค้าในการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์การทำงานแบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐานการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนผ่านระบบการทำงานในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร

สำหรับ 6 บริษัท ที่ BE8 ร่วมลงทุน สร้างระบบนิเวศ Digital Transformation ครบทุกมิติ ประกอบด้วย  

1. บริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส จำกัด ผู้นำด้านไอทีแบบครบวงจร 
2.บริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด (เบย์คอม) ผู้นำด้าน Cyber Security อันดับต้นๆ ของประเทศ 
3.บริษัท อี-ซี.โอ.พี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางไซเบอร์ 
4.บริษัท วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ จำกัด ที่ทำธุรกิจด้านที่ปรึกษาการทำ Branding และการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร 
5.บริษัท รีโคนิกซ์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการด้าน Cyber Security โดยมีความเชี่ยวชาญในการทดสอบระบบ เพื่อหาช่องโหว่และการทำ Smart Contract Audit
6.บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด สื่อเทคโนโลยีและธุรกิจออนไลน์ ที่นำเสนอคอนเทนต์เพื่อวงการ Tech ในโลกธุรกิจ และเป็นผู้จัดงาน Tech Conference 

“เรามีพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างระบบนิเวศครบทุกมิติ ทำให้ความพร้อมทุกด้านในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเรามอง Asia Pacific เป็นภูมิภาคแรกที่เราจะโฟกัสจากที่เราเคยได้โครงการในหลากหลายประเทศ วันนี้เรามั่นใจว่ามีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันในระดับสากลแล้ว” นายอภิเษก กล่าว

โดยปัจจุบันกลุ่ม BE8 ได้มีการฟอร์มทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation เข้ามาดูแลด้านศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ภายใต้การนำของ  Mr.Charles Woodall ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BE8 International

นายอภิเษก กล่าวว่า เป้าหมายรายได้ 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 จะเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 25-30% ส่วนที่เหลือเป็นสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อเดินตามกลยุทธ์สู่เป้าหมายรายได้ดังกล่าว โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกำไรของบริษัท, เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ซึ่งเหลืออยู่ 200-300 ล้านบาท, เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมทั้งบริษัทมีการพิจารณาแนวทางการออกหุ้นเพิ่มทุนขาย PP และการออกหุ้นกู้   

Mr.Charles Woodall ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BE8 International กล่าวถึงแผนการเติบโตในการขยายตลาดต่างประเทศว่าประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคแรกที่กลุ่ม BE8 จะรุกตลาด เพราะเราเคยได้โครงการในหลายประเทศ ซึ่งเราได้มีการสำรวจตลาดในแต่ละประเทศ และจะมีกลยุทธ์ในการขยายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ซึ่งวันนี้เรามีความมั่นใจว่า เรามีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันในระดับสากลแล้ว

สำหรับประเทศที่จะขยายตลาดต่างประเทศในเฟสแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย, เวียดนาม และสิงคโปร์ เฟสที่ 2 ได้แก่ นิวซีแลนด์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ส่วนเฟสที่ 3 ได้แก่ ตะวันออกกลาง, GCR, EMEA และ AMER     

“ปีนี้เราให้ความสำคัญกับตลาดออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความสำคัญของธุรกิจเทคโนโลยี ทั้งจากมูลค่าตลาดด้าน IT ที่สูงมาก ใหญ่กว่าตลาดไทยกว่า 10 เท่า และความล้ำหน้าในการรับเทคโนโลยีใหม่ๆ นอกจากนี้ การให้บริการบางส่วนที่ถือเป็นความเชี่ยวชาญของกลุ่ม BE8 ยังมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดออสเตรเลีย” Mr.Charles Woodall กล่าว