JAS อัพเดทวิธีแก้เหตุถูกแขวน “C” หลังส่วนผู้ถือหุ้นเหลือ 15% ของทุนชำระแล้ว
นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและชี้แจงแนวทางแก้ไขเหตุที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C จากการที่บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาส 2/2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2566
ทั้งนี้ ณ สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2566 บริษัท และบริษัทย่อย มีอัตราส่วนของ “ส่วนของผู้ถือหุ้น” ต่อ “ทุนชำระแล้ว” ในงบการเงินรวม อยู่ระดับ 15%
สำหรับแผนดำเนินการแก้ไขเพื่อเพิ่มอัตราส่วน “ส่วนของผู้ถือหุ้น” ให้มากกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ประกอบด้วย
1.การจำหน่ายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF และหุ้นสามัญใน บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ผู้ให้บริการ 3BB รวมมูลค่าทั้งสิ้น 32,420 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
จากที่คาดว่าจะเสร็จทันภายในไตรมาส 2/2566 ในกรณีเช่นนี้จากงบแสดงฐานะการเงินเสมือนของไตรมาส 2/2566 บริษัท และบริษัทย่อย จะมีกำไรประมาณ 25,047 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 27,364 ล้านบาท หรือคิดเป็น 637% ของทุนชำระแล้วของบริษัท มูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าวยังมิได้รวมคำนวณถึงรายการปรับปรุงทางบัญชีอื่นๆ ที่อาจมีขึ้นจากเงื่อนไขตามสัญญาการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและกิจการที่เกี่ยวข้อง ณ วันปิดการซื้อขายกิจการ
โดยคาดว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีข้อสรุปกับธุรกรรมดังกล่าวในช่วงเดือน ต.ค.2566
2.การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ (Asset Revaluation) ซึ่งส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เพิ่มจะแสดงอยู่ในส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท
3.การเร่งเจรจาหาข้อยุติในคดีพิพาทกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ที่มีมูลหนี้ ประกอบด้วย เงินต้นและดอกเบี้ย รวมประมาณ 4,702 ล้านบาท ซึ่งหากเจรจาเป็นผลสำเร็จ บริษัทจะสามารถบันทึกรายได้จากส่วนที่เป็นดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 2,184 ล้านบาท
4.เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2566 บริษัทได้แจ้งต่อ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทจัดการของกองทุนรวม JASIF ขอให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วย JASIF ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 23 ส.ค.2566 เพื่อพิจารณาผ่อนผันเพื่อหยุดพักการชำระค่าเช่า และการผิดนัดชำระค่าเช่าตามสัญญาประกันรายได้ ตลอดจนการยกเลิกและแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน
หากได้มติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย จะมีผลให้ 3BB ไม่ต้องสำรองส่วนการประกันรายได้ค่าเช่า ซึ่งเป็นส่วนหนี้สินของ 3BB มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าที่แน่ชัดของส่วนของผู้ถือหุ้นภายหลังการแก้ไขสัญญาดังกล่าวอยู่ระหว่างการยืนยันกับผู้สอบบัญชีของบริษัท
อย่างไรก็ตาม เป็นการคาดการณ์สถานะทางการเงินของ JAS ภายใต้สมมติฐานที่ว่าธุรกรรมแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2566 โดยเป็นตัวเลขที่ปรับจากสารสนเทศที่บริษัทเผยแพร่ไปเมื่อเดือน ส.ค.2565 ซึ่งระบุกำไรจากการดำเนินงาน (สุทธิจากภาษีแล้ว) ที่จำนวน 22,812 ล้านบาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.