ประธานกสทช.ย้ำอำนาจคุมสำนักงานฯจุดชนวนความขัดแย้งรอบใหม่

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประชุมบอร์ดกสทช.วันที่ 9 ธ.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 น - 11.30 น. มีวาระต้องพิจารณาเกือบ 40 วาระ แต่ที่ประชุมไม่สามารถพิจารณาได้เลยแม้แต่วาระเดียว มีเพียงเรื่องแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น

เนื่องจากนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. ได้หยิบวาระที่ 4.23 เรื่อง รายงานการศึกษาเปรียบเทียบมาตรการเฉพาะกรณีการรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)  ขึ้นมาพิจารณาก่อน

กรรมการฯที่ประชุม ไม่ได้ติดใจการเลื่อนวาระ แต่กลับเกิดปัญหาเพราะกสทช.ตั้งใจพิจารณารายงานผลการศึกษาฯเพื่อลงความเห็นต่อหลังจากที่ประชุมครั้งที่ผ่านมาขอให้แก้ไขเนื้อหาผลการศึกษาและนำกลับมาเสนอใหม่ แต่สำนักงานไม่ได้นำผลการศึกษามาเสนอในที่ประชุม แต่กลับนำเอกสารขอยกเลิกเงื่อนไขมาตรการหลังควบรวมกิจการทรู-ดีแทค มาให้กสทช.พิจารณาแทน

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ นายศุภัช ศุภัชลาศัย กสทช.ด้านเศรษฐศาสตร์ ไม่พอใจ และมีการพูดถึงสำนักงานว่าเหตุใด จึงไม่ให้ความร่วมมือ ตนเองขอเอกสารก็ไม่ให้ความร่วมมือหลายครั้ง ซึ่งสำนักงานที่ประชุมแจ้งว่าตนเองต้องปฏิบัติตามคำสั่งของประธานกสทช.เท่านั้น ขณะที่บอร์ดกสทช.บางคนก็ไม่เห็นด้วยกับวาระดังกล่าวที่สอดไส้มาไม่ตรงกับชื่อหัวข้อ

ทั้งนี้แหล่งข่าวจากกสทช.ระบุว่า เดือนนี้ กสทช.กำหนดประชุมในเดือน ธ.ค.นี้ ถี่ยิบอีก 4 วัน คือ 18, 24 ,25 และ 26  ธ.ค.  2567 หลังจากที่ได้ประชุมไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.และวันนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งที่ผ่านมามักประชุมทุกวันพุธของสัปดาห์ จึงไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุใด หรือต้องการให้วาระดังกล่าวผ่านหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลังประชุมเสร็จสิ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ปรากฎมีหนังสือ ด่วนที่สุด จากประธานกสทช.ถึงกรรมการกสทช.ทุกคน เรื่อง การปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน กสทช.โดยมีการย้ำชัดว่า สำนักงานต้องฟังคำสั่งของประธานกสทช.แต่เพียงผู้เดียว ตามกฎหมาย โดยเนื้อหาระบุเน้นย้ำคำสั่งเดิม ว่า 

หนังสือด่วนถึงกสทช.ย้ำประธานมีอำนาจดูแลสำนักงานตามกฎหมาย

ด้วยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2553 มาตรา 56 บัญญัติให้สำนักงาน กสทช. อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธาน กสทช. และมาตรา 60 บัญญัติให้เลขาธิการ กสทช. ขึ้นตรงต่อประธาน กสทช. และเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน กสทช. 

ดังนั้น ประธาน กสทช. จึงได้มีหนังสือ ด่วนที่สุดที่ สทช 1001/63 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เรื่อง การปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจ แจ้งเลขาธิการกสทช. เพื่อให้แจ้งพนักงานสำนักงาน กสทช. ทราบและถือปฏิบัติ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบ เพื่อให้การปฏิบัติงานของสำนักงาน กสทช. เป็นไปด้วยความถูกต้องและเรียบร้อย 

หากกรรมการกสทช. ท่านใดประสงค์จะให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการใด ๆ ขอให้ทำเป็นหนังสือถึงประธาน กสทช. เพื่อจะได้พิจารณามอบหมายตามสายบังคับบัญชาต่อไป

ต้องรอติดตามว่า หนังสือด่วนที่สุดเพื่อเน้นย้ำถึงอำนาจประธานกสทช.จะกลายเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งของบอร์ดกสทช.ที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่

ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา และคณะ เข้าพบบอร์ดกสทช.โดยได้พูดคุย ให้ข้อเสนอแนะ ข้อกังวลหลายประเด็น อาทิ กิจการดาวเทียม แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต การกำกับดูแลกิจการ OTT ทางออกและความอยู่รอดของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) การส่งเสริมการใช้ 5G  การส่งเสริมการให้อินเตอร์เน็ตในพื้นที่ห่างใกล เป็นต้น

รวมถึงการบริหารงานของบอร์ด ที่มีการถามถึงหลักการบริหารของ กสทช. แผนงานต่างๆ ตามที่มี กสทช. และคณะกรรมการติดตามและประเมิน  ผลการปฏิบัติงาน (กตป.) ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน มีการทำหน้าที่อย่างไร คานอำนาจกันอย่างไร เป็นต้น ซึ่งการประชุมไม่ได้มีผลสรุปอะไรออกมาชัดเจน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.