แค่เอื้อม! หุ้นไทยสัปดาห์หน้าลุ้น 1,500 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(11 ตุลาคม 2567) อยู่ที่ 1,470.10 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด คิดเป็น +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 60,173.24 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,482.02 จุด และลดลงต่ำสุด 1,470.10 จุด
5 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้
1. PTT ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,074.32 ล้านบาท
2. GULF ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,459.99 ล้านบาท
3. KTB ปิดที่ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,880.40 ล้านบาท
4. DELTA ปิดที่ 117 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,587.29 ล้านบาท
5. KBANK ปิดที่ 154 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,526.27 ล้านบาท
สถาบันซื้อกว่า 3 พันล้าน
นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3,038.20 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ -1,164.79 ล้านบาท
บัญชี บล. ขายสุทธิ -423.05 ล้านบาท
นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ -1,450.36 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า SET Index ปรับขึ้น 1.58 จุด มูลค่าการซื้อ 6.01 หมื่นล้านบาท แม้เงินเฟ้อสหรัฐจะออกมาสูงกว่าคาด แต่มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรง โดย Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีคือ กลุ่มพลังงาน (GULF , PTT) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่ม ICT (ADVANC) กลุ่มธนาคาร (BBL, BAY, KTB) ฯลฯ กลุ่มที่กดดัชนี คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC กลุ่มปิโตรเคมี (IVL, PTTGC) ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ PTT +2.24% มีจิตวิทยาบวกราคน้ำมันดีดตัวเฉลี่ย 3.5% จากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ตึงเครียดขึ้น ผสาน รัฐบาลใหม่ของไทยจะเริ่มการเจรจากับกัมพูชาอีกครั้งเพื่อสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง รวมถึงกระแสการผลักดันไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ในอีกด้านหนุนความต้องการใช้ก๊าซเป็นอีก Upside ต่อ PTT (TP25F ที่ 38.5 บาท)
BBl +0.97% KTB +2.37% KBANK +0.98% KKP +6.12% ปรับขึ้นก่อนการรายงานงบในสัปดาห์หน้า โดยเริ่มจาก TISCO วันที่ 15 ต.ค.67 ทาง KSS คาดกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 1.70 พันล้านบาท ลดลง -9%y-y และ -3%q-q และ วันที่ 18 ต.ค. TTB คาดกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 5.39 พันล้านบาท เพิ่ม y-y และ q-q ยังแนะนำซื้อ, KKP คาดกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 870 ล้านบาท ลด y-y เพิ่ม q-q และบริษัทอื่นๆทยอยประกาศ ในช่วงสัปดาห์ อาทิ BBL คาดกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท เพิ่ม y-y ลง q-q
PTTGC -6.96% , IVL -2.47% SCC -6.25% กลุ่มปิโตรเคมีปรับลง หลังจาก SCC แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q24Fอ่อนตัว KSS คาดราว 216 ล้านบาท (-91% y-y, -94% q-q) ลดมากทั้ง y-y q-q ฉุดจากทุกธุรกิจ โดยฝั่งซีเมนต์ demand ได้รับผลกระทบน้ำท่วม และการลงทุนโครงการรัฐชะลอ, ฝั่งปิโตรเคมียังเผชิญ oversupply จากกำลังการผลิตใหม่ โดยรวมเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นในกลุ่มปิโตรมี โดย SCC คำนแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 290 บาท IVL ราคาเป้าหมาย Max Consensus 34 บาท PTTGC ราคาเป้าหมาย 32 บาท
TOP -0.5% ปรับลงจากแนวโน้มขาดทุนสุทธิ 3Q24F ราว -4 พันล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้น 1.1 หมื่นล้านบาท และไตรมาส 2/67 ที่ 5.5 พันล้านบาท ตัวฉุดหลักมาจาก net stock loss ก้อนใหญ่ -7.6 พันล้านบาท (รวม NRV loss ราว -2.4 พันล้านบาท) สำหรับ y-y มีอีกตัวฉุดคือค่าการกลั่นที่ลดลงมาเหลือราว 3.6 $/bbl -71% y-y จากไม่มี supply disruption และ ทั่วโลกกำลังการผลิตออกมาเพิ่มขึ้น คาดไตรมาส 4/67 พลิกมีกำไรปกติได้ q-q (ฐานต่ำ) จากไม่มี stock loss ก้อนใหญ่มาฉุด (คาดกลับรายการ NRV loss ส่วนใหญ่ของ 3Q24F) ฝ่ายวิเคราะห์อยู่ระหว่างปรับลดประมาณการกำไรจาก stock loss ที่สูงกว่าคาด รวมถึงความไม่แน่นอนของการ COD โครงการ CFP (Buy; TP78.5 อยู่ระหว่างปรับลดประมาณการ)
ROJNA +1.44% มีจิตวิทยาบวกหนุนจากคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 628% yoy และ 210% yoy หากไม่รวมกำไรพิเศษ 1.6 พันล้านบาท กำไรธุรกิจหลักอยู่ที่ 332 ล้านบาท ลดลง 22% yoy และ 55% qoq กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าชะลอตัวลง กำไรธุรกิจหลักงวด 9 เดือนปี67 เป็น 1.3 พันล้านบาท ลดลง -10% yoy และคิดเป็น 62% ของประมาณการปี67 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสูงขึ้น qoq ในไตรมาส 4/67 และการซื้อที่ดินจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายในอนาคตและมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย บริษัทจะได้รับรู้กำไรจากการขายที่ดินของบริษัทร่วมทุน TRA ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำซื้อ
ลุ้น 1,500 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยสัปดาห์หน้า(ระหว่างวันที่ 15-18 ต.ค.2567) หากยืนเหนือแนวต้าน 1,470 จุด โมเมนตัมระยะกลางจะแกว่งเข้าหา 1,500 จุด ภาพกราฟรายสัปดาห์ของ SET พักตัวลงไม่หลุดแนว Breakout บริเวณ 1,440 จุด ก่อนจะฟื้นตัวได้แข็งแรงในสัปดาห์ล่าสุด หากยืนปิดเหนือแนวต้าน Sideways ระยะสั้น 1,470+- จุดได้ จะมีโอกาสลุ้นปรับตัวขึ้นต่อ โดยประเมินกรอบเป้าหมายระยะกลางที่ 1,500+- จุด โดยมีแนวรับ 1,470 / 1,460 จุด แนวต้าน 1,480 / 1,500 จุด
โดยกลุ่มที่ยังคงอยู่ในโซนนำตลาด ได้แก่ BANK กราฟเริ่มมีสัญญาณบวกหลังทะลุผ่านกรอบพักตัว Bull Flag ระยะสั้นทำให้โมเมนตัมมีโอกาสลุ้นทดสอบ High เดิมบริเวณ 410-413 จุด ขณะที่ ICT อ่อนลงต่อเนื่องเข้าใกล้โซน Weakening , กลุ่มที่พักตัวโซน Weakening และทิศทางอ่อนลงต่อ คือ ETRON ส่วนกลุ่มที่ฟื้นเข้าโซน Improving ได้แก่ TRANS, CONS กลุ่มที่ฟื้นต่อเนื่อง คือ FIN, PETRO, PROP, CONMAT กลุ่มที่อ่อนแอกว่าตลาดแต่ทิศทางดีขึ้น ได้แก่ TOURISM
กลยุทธ์ Trading หุ้น BBL ภาพรวมกราฟล่าสุดสอดคล้องกับดัชนีกลุ่ม Banking สามารถทะลุผ่านกรอบพักตัว Bull Flag ระยะสั้น มีโอกาสลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ High เดิม 159.50 บาท
Support 155 / 150-149 บาท
Resistance 159.50 / 165 บาท
และ หุ้น KBANK ราคาหุ้นพักตัวลงลดความร้อนแรงหลังจากพุ่งขึ้น แข็งแกร่งก่อนหน้า แต่ยังประคองตัวยืนระดับ 150+- บาท และเริ่มเห็นแรงซื้อหนุน มีโอกาสทยอยฟื้นตัวกลับขึ้นทดสอบ High เดิมบริเวณ 159 บาท
Support 148 บาท
Resistance 154 / 159 บาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.