แจกเงินหมื่นเฟสแรก 14.2 ล้านคน เฟส 2 ยังไม่ชัด กระทบหุ้นค้าปลีกแค่ไหน

     ราคาหุ้น CPALL ปิดการซื้อขายเช้าวันนี้(13 กันยายน 2567) ที่ 65 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +0.78% มูลค่าการซื้อขาย 618.87 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 65.25 บาท และลดลงต่ำสุด 64.50 บาท

     ราคาหุ้น CPAXT ปิดที่ 32.50 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 75.34 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 32.75 บาท และลดลงต่ำสุด 32.25 บาท

     ราคาหุ้น BJC ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท คิดเป็น +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 100.45 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 23.90 บาท และลดลงต่ำสุด 23.60 บาท

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าฝ่ายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ รมว.คลัง เผยแนวทางการดำเนินนโยบาย Digital Wallet ว่าจะทำให้เร็วที่สุด โดยก้อนแรกจะให้เต็มจำนวน 10,000 บาท กลุ่มเปราะบางและผู้พิการ 14.2 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.4 แสนล้านบาท พร้อมให้เงินก้อนแรกไหลเข้าระบบ 25 ก.ย.นี้

     ส่วนการดำเนินเฟสที่ 2 เนื่องจากรัฐบาลมีงบประมาณที่จำกัด อยากให้ความสำคัญของการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบกลางกับการปรับปรุงโครงสร้างที่เป็นจุดอ่อนแอของประเทศก่อน เพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะปานกลางและระยะยาว ถ้ามีเงินเหลือที่พอจะได้ก็จะเจียดมาสู่เฟส 2 ซึ่งเป็นการจัดลำดับความสำคัญที่ต่ำลงมา 

     แม้ผิดไปจากความคาดหวังจากที่รองนายกฯให้ข้อมูลต้นสัปดาห์ในส่วนการพิจารณาจ่ายเงินเฟส ที่ 2 ว่าจะจ่ายต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี แต่ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นกลาง หรือ จิตวิทยาลบเล็กๆต่อกลุ่มค้าปลีกเท่านั้น เนื่องจากอาจเพิ่มโอกาสที่แบงก์ชาติพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลง จากความเสี่ยงเงินเฟ้อกลับมาขยับขึ้นเร็ว จากผลกระทบนโยบายดังกล่าวที่ BOT กังวลจะจำกัดขึ้น

     เชิงกลยุทธ์ หากหุ้นอ่อนตัวลงมา ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นโอกาสทยอยสะสม รับภาพเศรษฐกิจภายในกำลังฟื้นตัวเร่งขึ้นนับจาก 3Q24 รวมถึงโอกาสที่เม็ดเงินใหม่ ThaiESG บวกกองทุนวายุภักษ์ เพิ่มน้ำหนักช่วง 4Q24 เน้น CPALL , CPAXT , BJC

มองต่าง ชี้ค้าปลีกสดใส

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ความชัดเจนของโครงการ Digital Wallet เป็น Sentiment เป็นบวกโดยตรงต่อกลุ่มค้าปลีกจากการบริโภคโดยรวมที่จะฟื้นตัวตามเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบมากขึ้น และเงื่อนไขใหม่ที่สามารถนำไปใช้กับสินค้าหรือร้านค้าชนิดใดก็ได้ย่อมเป็นบวกต่อภาพรวมกลุ่มผู้ประกอบการทุกราย

     ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปกติ 2H67 ของกลุ่มเติบโต YoY จากฐานต่ำ ขณะที่กำลังซื้อที่ฟื้นตัว และได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ การคุมต้นทุนและ Product mix ที่ช่วยหนุนให้ GPM ดีขึ้น ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มค้าปลีก “มากกว่าตลาด” แนะนำซื้อ CPALL ราคาเป้าหมาย 76 บาท , CPAXT ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ BJC ราคาเป้าหมาย  28 บาท