WHA เด้งรับเป้ายอดขายที่ดินใหม่-ก่อสร้างคอนโดฯ 5โบรกประสานเสียงเชียร์

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "WHA" วันนี้(12 กันยายน 2567) กลับมาบวกสดใส ปิดการซื้อขายในช่วงเช้าที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท คิดเป็น +1.82% มูลค่าการซื้อขาย 322.21 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 5.70 บาท และลดลงต่ำสุด 5.50 บาท

     ไม่ธรรมดา! 

     "จรีพร จารุกรสกุล" ในแวดวงธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศต่างซูฮกผู้นำหญิงแกร่งคนนี้ ด้วยฝีมือและผลงานต่างเป็นที่ประจักษ์และค่อนข้างหาตัวจับได้ยาก ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล อ่านเกมในอนาคตชัดเจน จึงไม่แปลกที่อาณาจักร "บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA" จึงสามารถขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

     ไฮไลท์สำคัญของธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 คือการปรับเป้าขายที่ดินเพิ่มเป็น 2,500 ไร่ ซึ่งเป็นการปรับครั้งที่ 2 หลังจากที่ปรับครั้งแรกจาก 2,275 ไร่ เป็น 2,400 ไร่ หลังเซ็นสัญญาลูกค้ารายใหญ่ 1 ราย คิดเป็นพื้นที่ 400 ไร่ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการเจรจาขายอีกกว่า 600 ไร่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกขายได้แล้ว 1,242 ไร่ ด้วยการย้ายฐานการผลิตออกมาจากจีนเป็นตัวหนุน ยอดขายส่วนใหญ่มาจากประเทศไทยเป็นหลัก ขณะที่เวียดนามอาจต้องรอดูในช่วงปลายปีอีกครั้ง

     และอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ "การก่อสร้างคอนโดมิเนียมขายในนิคมอุตสาหกรรม" เริ่มจากนิคมอุตสาหกรรม ESIE 5 เป็นแห่งแรก ด้วยความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะจากจีนที่มีความต้องการพักอาศัยในบริเวณที่ใกล้เคียงกับโรงงาน โดยจะเริ่มขายในปี 2568 และรับรู้เป็นรายได้ในช่วงปลายปี 2568 ถึงช่วงต้นปี 2569 เป็นต้นไป

     ขณะที่ "ธุรกิจไฟฟ้า" ทาง WHA ตั้งเป้าเซ็นสัญญาขายที่ระดับ 1,000 เมกะวัตต์(MW) โดยเน้นไปที่ไฟฟ้ารูปแบบพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบไฟโซลาร์เซลเป็นหลัก ซึ่งจะขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขายไฟตรงให้กับลูกค้าหากภาครัฐอนุญาตให้ทำสัญญาประเภท Direct PPA

     "ธุรกิจ Logistic" ตั้งเป้ามีพื้นที่เช่าสุทธิเพิ่ม 200,000 ตารางเมตร ขณะที่การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ส่วนแผนลงทุนในธุรกิจรถบรรทุก EV ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 1,000 คัน ณ สิ้นปี 2567 ปัจจุบันความต้องการมากกว่าเป้าไปแล้วแต่ยังมีปัญหาจากรถบรรทุกที่พร้อมส่งมอบยังเข้ามาไม่ทัน

     "ธุรกิจสาธารณูปโภค" ตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมที่ระดับ 178 ล้านลูกบาศก์ลิตร คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าได้ตามจำนวนลูกค้าในนิคมที่เพิ่มขึ้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า สิ่งที่น่าสนใจคือเป้ายอดขายที่ดิน เพิ่มเป็น 2,500 ไร่ ซึ่งจะทำให้รายได้จากการขายที่ดินในปี 2567-2568 ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะที่การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนที่มีบางส่วนยกเลิกไปในปี 2567 จะกลับมาอีกครั้งในปี 2568 (มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท)

     ขณะที่การขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าเป็นปัจจัยบวกเพราะมีความต้องการอยู่แล้ว และหากประสบความสำเร็จมีโอกาสที่จะขยายไปยังนิคมอื่นได้อีก WHA มีนิคมในไทย 12 แห่ง จากปัจจัยบวกดังกล่าวจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมด้วยมูลค่าพื้นฐาน 6.10 บาท

ยอดขาย Q3 พีคสุด

     บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประมาณการยอด presales 780 ไร่ใน 3Q24F ซึ่งน่าจะเป็นยอดขายสูงสุดในปี 2024F โดยได้รับแรงหนุนจากการขายที่ดินแปลงใหญ่ 400 ไร่ ให้กับบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน WHA ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 2024F เป็น 2,500 ไร่ โดยบริษัทคาดว่าอุปสงค์จะแข็งแกร่งในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การย้ายฐานการผลิต การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และพลังงานหมุนเวียน ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท

 

Q3 ดี แต่ Q4 มีดีลใหญ่

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยอดยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากทาง BOI และการยื่นขอจากต่างชาติ(FDI) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องYoY สะท้อนอุปสงค์ที่ดินแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่ต่างชาติจะเลือกเป็นจุดหมายการลงทุน ซึ่ง Presales 1H67 สะสมอยู่ที่ 1,042 ไร่ (42% ของเป้าใหม่) แม้ฝ่ายวิเคราะห์คาด Presales 2H67 ลดลง YoY จากฐานสูงที่มีการขายที่ดินจำนวนมาก แต่จะเติบโต HoH และสามารถทำยอด Presales ที่ดินปี 2567 ได้ตามเป้า ปัจจุบัน WHA กำลังเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ High Potential กลุ่มเทคโนโลยีอีกราว 600 ไร่ที่คาดเห็นความชัดเจนช่วง 4Q67 นอกจากนี้มีที่ดินรอเซ็นสัญญาซื้อขาย (LOI) อยู่ราว 756 ไร่ซึ่งคาดจะเข้ามาหนุนการเติบโตของ Presales 2H67

     โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรปกติ 3Q67 ลดลง QoQ จากฐานสูง และเติบโต YoY ตามการส่งมอบที่ดินเพิ่มขึ้น ซึ่ง Backlog สิ้น 2Q67 เพิ่มขึ้น 10% YoY อยู่ที่ 879 ไร่, อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) ของการโอนที่ดินสูงขึ้นตามการปรับราคาขายที่ดินขึ้น รวมถึงรายได้ธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งน้ำและไฟฟ้าเติบโตตามจำนวนลูกค้านิคมที่เพิ่มขึ้น

     อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์ปรับสมมติฐานและเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้น 7% เป็น 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ กำไรปกติปี 2568 เพิ่มขึ้น 6%  เป็น 5.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY จาก GPM การขายที่ดินทำได้สูงกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้เดิม นอกจากนี้ มีการปรับไปใช้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ส่งผลให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.35 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

กำไรโดดเด่น

     บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า WHA เป็นผู้นำในการพัฒนานิคม ฯ อันดับ 1 ในไทย โดยมีศักยภาพเสนอบริการต่าง ๆ ครบวงจร ได้แก่ น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม, จัดการน้ำเสีย, น้ำประปา, ไฟฟ้า, ก๊าซ NGD, สื่อสาร, สาธารณูปโภค เป็นต้น ถือเป็นจุดแข็งหลักในการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ขณะที่ WHA กำลังพัฒนานิคมฯรูปแบบใหม่ๆทั้งในไทยและเวียดนามโดยใช้แนวคิดสร้างเมืองเล็กแบบ township ในนิคมฯ

     ซึ่งรวมการพัฒนาเพื่อการพาณิชย์และโครงการที่อยู่อาศัย โดยที่โครงการคอนโดฯใหม่เพื่อให้เช่าจะมีการพัฒนาปีหน้าซึ่งตั้งเป้าเสร็จปลายปี 2569 อีกทั้งยังพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อสร้าง synergy ในกลุ่ม รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า นอกจากนั้นการเปิดตัวโมบิลิกส์ (Mobilix) โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรครั้งแรกของไทย ด้วยอีโคซีสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งในแนวคิดริเริ่ม

     คงประมาณการยอดขายที่ดินปี 2567-2568 ไว้ที่ 2.5-2.6 พันไร่ต่อปี ขณะที่คาดการณ์ยอดการโอนที่ดินปี 2567 คงที่ราว 2.2 พันไร่(ยอดโอนฯแล้ว 1.201 พันไร่ในช่วงครึ่งปีแรก ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มยอดโอนปี 2568 ขึ้นเป็น 2.4 พันไร่ นอกจากนี้ ราคาขายที่ดินของ WHA ได้ปรับขึ้นมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ปีก่อนหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของยอดขายที่ดินในประเทศไทยสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 63% ในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้ ณ สิ้นงวดไตรมาส 2/67 ยอดขายที่ดินรอโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) สูงอยู่ที่ 879 ไร่

     ฝ่ายวิเคราะห์คงรายได้ไม่ใช่ธุรกิจนิคมฯเติบโต 18% YoY ปี 2567 และ 15% YoY ปี 2568 โดย ธุรกิจน้ำ , ไฟฟ้าของ WHA อยู่ภายใต้บริษัทลูกคือ WHA Utilities & Power (WHAUP) ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วของ WHA และยังคงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆนอกจากธุรกิจนิคมฯ ขณะที่สัญญาเช่าพื้นที่โกดังสินค้าใหม่ที่เซ็นแล้วมีอยู่ราว 3.37 หมื่นตร.ม. และมีพื้นที่รอการเซ้น 6.2251 หมื่นตร.ม.ในครึ่งปีแรกจากเป้าปีนี้ 2 แสนตร.ม. ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะแข็งแกร่งตามยอดขายที่ดินสดใสจากนิคม WHA IER ซึ่งเป็น JV ร่วมกับ IRPC ที่ 700 ไร่ปี 2567 และ 600 ไร่ปี 2568 นอกจากนี้ การดำเนินงานโครงการ Gheco One และธุรกิจ SPP อื่นๆน่าจะพลิกฟื้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

     อย่างไรก็ดี คงประมาณการกำไรปี 2567 แต่ปรับเพิ่มกำไรปี 2568 ขึ้น 6% ตามการโอนที่ดินมากขึ้น โดยกำไรน่าจะโต 15% YoY ปีนี้ และ 23% YoY ปี 2568 ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่ที่ 6.60 บาท จากเดิม 6.20 บาท บนสมมติฐาน PE ของธุรกิจนิคมฯสูงขึ้นที่ +0.5 S.D (19x) และคงคำแนะนำซื้อ

 

เก็งกำไร WHA - ซื้อ WHAUP

     บล.บัวหลวง ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินน่าจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น และอาจส่งผลให้นักวิเคราะห์มีการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรและราคาเป้าหมาย ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ต่อ WHA ด้วยราคาเป้าหมาย 5.80 บาท ซึ่งยังไม่ได้รวมการปรับเป้าดังกล่าวเข้าสู่ประมาณการ และ "ซื้อ" ต่อ WHAUP ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท ซึ่งยังไม่ได้รวมผลของการประมูลโครงการพลังงานทดแทนล็อตที่กำลังจะเกิดขึ้นเข้าสู่ประมาณการ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.