เปิดพอร์ต “บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา” หลังขายหุ้น SVT เกลี้ยง 5.01%
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SUNVENDING” โดย นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2567
จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายไป 35,103,090 หุ้น คิดเป็น 5.0147% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่ายไป อยู่ที่ 35,103,090 หุ้น คิดเป็น 5.0147% ส่งผลให้ไม่เหลือจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายไป หรือคิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ขณะเดียวกัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการได้มาหุ้นของ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT โดย บริษัท อี่ทงเทียนไท้ บีเอสซี จำกัด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2567
จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา 35,103,090 หุ้น คิดเป็น 5.0147% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการได้มา อยู่ที่ 10,000 หุ้น คิดเป็น 0.0014% ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา อยู่ที่ 35,113,090 หุ้น คิดเป็น 5.0161% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ SVT เปิดเผยว่า บริษัทได้รับแจ้งจาก นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 35,103,090 หุ้น คิดเป็น 5.015% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท ให้กับ บริษัท อี่ทงเทียนไท้ บีเอสซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.946% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท อี่ทงเทียนไท้ บีเอสซี จำกัด ในวันที่ 19 ส.ค.2567
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจในการควบคุม นโยบายการดำเนินธุรกิจโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทหรือบริหารของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากหุ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว
ดังนั้น “โพสต์ทูเดย์” ได้รวบรวมข้อมูลจาก StockRadars พบว่า ปัจจุบัน “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” เจ้าสัวสหพัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 9 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่ารวม 1,742,873,164.75 บาท (คิดจากราคาปิดวันที่ 21 ส.ค.2567) แบ่งเป็นลงทุนหุ้นกลุ่มพาณิชย์ 49.45% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 32.98% กลุ่มของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 9.29% และกลุ่มอื่นๆ อีก 8.27% ประกอบด้วย
1.บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA
ถือหุ้นอันดับ 23 จำนวน 2,994,979 หุ้น คิดเป็น 0.91% มูลค่า 593,005,842 บาท
2.บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI
ถือหุ้นอันดับ 18 จำนวน 6,908,057 หุ้น คิดเป็น 1.21% มูลค่า 464,566,833.25 บาท
3.บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ICC
ถือหุ้นอันดับ 9 จำนวน 6,486,740 หุ้น คิดเป็น 2.23% มูลค่า 199,467,255 บาท
4.บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC
ถือหุ้นอันดับ 15 จำนวน 2,775,585 หุ้น คิดเป็น 0.84% มูลค่า 169,310,685 บาท
5.บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ S&J
ถือหุ้นอันดับ 7 จำนวน 3,452,374 หุ้น คิดเป็น 2.30% มูลค่า 155,356,830 บาท
6.บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) หรือ TPCS
ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 8,949,430 หุ้น คิดเป็น 8.29% มูลค่า 111,867,875 บาท
7.บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ WACOAL
ถือหุ้นอันดับ 12 จำนวน 1,307,650 หุ้น คิดเป็น 1.09% มูลค่า 36,941,112.50 บาท
8.บริษัท โอ ซี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ OCC
ถือหุ้นอันดับ 8 จำนวน 1,357,490 หุ้น คิดเป็น 2.26% มูลค่า 11,674,414 บาท
9.บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ NPK
ถือหุ้นอันดับ 19 จำนวน 59,332 หุ้น คิดเป็น 0.59% มูลค่า 682,318 บาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.