ส่องผลงาน 7 หุ้น ถูก Force Sell ไตรมาส 2/67-ครึ่งปีแรก พบ 3 หุ้น พลิกขาดทุนยับ

ประกาศกันไปครบแล้วสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 และครึ่งแรกปี 2567 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกอบกับ “โพสต์ทูเดย์” ได้นำเสนอหุ้นที่โดน Force Sell หรือถูกบังคับขาย ไปก่อนหน้านี้ เปิดรายชื่อ 6 หุ้น ถูก Force Sell หนัก ทุบราคาหุ้นดิ่ง-มาร์เก็ตแคปวูบ

ดังนั้นในครั้งนี้ จึงได้รวบรวมผลการดำเนินงานของ 7 หุ้น ที่ถูก Force Sell ซึ่งอิงจากที่ผู้ถือหุ้น และผู้บริหารออกมายอมรับ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ EA, NEX, YGG, SABUY, SBNEXT, AS และNRF มาให้ดูกันว่าในเชิงของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 และครึ่งแรกปี 2567 เป็นอย่างไรกันบ้าง     

เริ่มจาก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กําไรสุทธิไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 541.74 ล้านบาท ลดลง 74.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 2,160.26 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,430.44 ล้านบาท ลดลง 68.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 4,480.02 ล้านบาท

กำไรสุทธิที่ลดลง หลักๆ ลดลงจากผลการดำเนินงานของธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากส่งมอบรถน้อยลง ลดลงจากผลการดําเนินงานของธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ลดลงจากผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในจังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากการหมดระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (adder)

นอกจากนี้ ยังลดลงจากผลกระทบจากการปรับลดค่า FT ของทางภาครัฐ ลดลงจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าสุทธิ อย่างไรก็ตาม ถ้ามองถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจไบโอดีเซล รวมทั้งธุรกิจอื่น ยังคงเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มขึ้นจากการแบ่งกำไร (ขาดทุน) ให้กับผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

ต่อกันที่ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 255.61 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 352.50 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 206.31 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 504.58 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 

ถัดมา บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 378.10 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 25.72 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ผลขาดทุนจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ต่างๆ รวม 375.60 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 347.15 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 57.23 ล้านบาท

เช่นเดียวกับ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 2,914.56 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 179.62 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 4,875.28 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 346.56 ล้านบาท 

ทั้งนี้ เป็นผลจากในไตรมาส 2/2567 SABUY ถูก Force sell เงินลงทุนใน SBNEXT และ AS จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ SABUY รับรู้ผลขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน จำนวนเงินรวม 602.35 ล้านบาท และรับรู้ผลขาดทุนจากการเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม จำนวนเงินรวม 1,400 ล้านบาท รวมไปถึงการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตน จำนวนเงิน 354.73 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจใหม่

ด้าน บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 289.92 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 15.02 ล้านบาท เนื่องจากมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน จำนวน 71.47 ล้านบาท เป็นผลมาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในตราสารทุนในระหว่างงวด 

ขณะเดียวกัน มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 169.71 ล้านบาท เป็นผลมาจากการปรับสมมติฐานการพิจารณาการตั้งสำรองและการตัดหนี้สูญให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับสภาวะในปัจจุบัน 

ดังนั้น ทำให้ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 376.07 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 0.67 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 48.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 28.89 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 125.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 72.34 ล้านบาท

สุดท้าย บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 20.11 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 36.03 ล้านบาท เกิดจากรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2566 มีบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน PBB-UK (บริษัทร่วมทุน) ส่งผลให้ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 82.64 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ อยู่ที่ 10.48 ล้านบาท

ปรากฎว่า มีหุ้นพลิกขาดทุน จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ SABUY-YGG-NEX, มีหุ้นขาดทุนเพิ่มขึ้น จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ SBNEXT, มีหุ้นกำไรลดลง จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ EA, มีหุ้นกำไรเพิ่มขึ้น จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ AS และมีหุ้นพลิกกำไร จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ NRF