ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์กองทุน Thai ESG รองรับมติคณะรัฐมนตรี เพิ่มความยืดหยุ่นลงทุน
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงประกาศหลักเกณฑ์กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน รวม 5 ฉบับ รองรับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2567 ที่เห็นชอบมาตรการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศ โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2567 ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถจัดตั้งหรือแก้ไขโครงการจัดการเพื่อลงทุนตามขอบเขตการลงทุนใหม่ที่กว้างขึ้นได้ โดย ก.ล.ต. ได้จัดซักซ้อมความเข้าใจ บลจ. และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567
ภายใต้เงื่อนไขใหม่ Thai ESG จะมีทางเลือกในการลงทุนในหุ้นที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืนที่ได้รับการประเมินโดยสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังลงทุนในบริษัทที่มีธรรมภิบาลในระดับดีเลิศที่เปิดเผยแผนการเพิ่มมูลค่าบริษัท (corporate value up plan) ผ่าน platform ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ยกระดับเกณฑ์กำกับดูแล บลจ. ในการบริหารจัดการ Thai ESG โดย บลจ. ต้องใช้ความรู้ความสามารถและความชำนาญ ด้วยความเอาใจใส่และระมัดระวัง (fiduciary duty) ในการคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพ เพื่อการลงทุนตามวัตถุประสงค์ของ Thai ESG ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทยด้วย
ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของแต่ละกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน โดย Thai ESG จะเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของกองทุนรวมตามหลักเกณฑ์กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) และเมื่อ Thai ESG ได้รับการจดทะเบียนเป็นกองทรัพย์สินแล้ว ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. โดยคลิกลิงก์ https://sustainablefinance.sec.or.th/Fund
การลงทุนในกองทุน Thai ESG สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท/คน/ปี สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2569 และต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะประเมินผลของการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในครั้งนี้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินมาตรการ 3 ปี
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.