เปิดสถิติลงมติเลือกนายกฯ หลังการถอดถอน หนุนตลาดหุ้นไทย แข็งแกร่ง

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า สภาผู้แทนราษฎร มีมติเลือก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 โดยไทม์ไลน์ในช่วงถัดไป หลังการเลือกนายกฯ ในสภาฯ คือการทูลเกล้าฯ/ โปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯ 

จากนั้น นายกฯ จะใช้เวลาตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม. และโปรดเกล้าแต่งตั้ง เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 

ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ นับจากวันนี้ ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับกระบวนการเลือกนายกฯ ในอดีตที่ผ่านมา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์แรก ของเดือน ก.ย.2567

สำหรับสถิติในอดีต ลงมติเลือกนายกฯ ในสภาฯ หลังการถอดถอน พบว่า ทำให้ตลาดหุ้นแข็งแกร่งขึ้น 

1. นายกฯ สมชาย (17 ก.ย.2551)

หุ้นไทย Outperform เทียบกับ MSCI Asia ex Japan และ S&P500 โดยให้ผลตอบแทน Relative Return ทำจุดสูงสุด +6.03% และ +3.94% ใน 37 และ 22 วัน หลังวันลงมติ

2. นายกฯ อภิสิทธิ์ (17 ธ.ค.2551)

หุ้นไทย Outperform เทียบกับ MSCI Asia ex Japan และ S&P500 โดยให้ผลตอบแทน Relative Return ทำจุดสูงสุด +11.77% และ +18.51% ใน 41 และ 79 วัน หลังวันลงมติ

ขณะที่ นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจาก นางสาวแพทองธาร ประกาศพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและน่าพาประเทศเดินหน้าให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องจับตาการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หากทำได้เร็วและส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีชุดเดิม คาดว่าการดำเนินโยบายจะมีความต่อเนื่อง ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ

สอดคล้องกับ นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตลาดตอบรับเชิงบวก ส่วนคณะรัฐมนตรีต่างๆ น่าจะเป็นชุดเดิมและเชื่อว่าจะไม่มีผลมากนักกับนโยบายต่างๆ ที่เคยมีแผนจะทํา อาทิ กองทุนวายุภักษ์ 

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใต้นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และที่เห็นผลเร็วสุด ได้แก่ การกระตุ้นการบริโภค ซึ่งทำให้กลุ่มค้าปลีก แม้อาจไม่ได้ประโยชน์จาก ดิจิทัล วอลเล็ต แต่จะได้ประโยชน์จากนโยบายอื่นๆ รวมไปถึงปัจจัยบวกด้ามฤดูกาล ซึ่งมองเป็นโอกาสสะสมมากกว่าจากระดับราคาปัจจุบัน 

เช่นเดียวกับ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี ระบุว่า หลังจากนี้จะเป็นการแต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่ โดยรวมคาด ทำให้ประเด็นที่ตลาดกังวลในส่วนงบประมาณปี 2568 ล่าช้า รวมถึงนโยบายหลักต่างๆ ที่รัฐบาลชุดก่อนวางไว้เดินหน้าได้ต่อ โดยมีผลกระทบจำกัด

ส่วนนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีกระแสข่าวความไม่แน่นอน มองว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงเชื่อว่างบประมาณจะถูกจัดสรรเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอื่นๆ แทนอยู่ดี มองกรอบ SET ใน 1 เดือน จะค่อยๆ ฟื้นตัวสู่กรอบ 1,290-1,360 จุด เลือกลงทุนหุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์เชื่อว่าเดินหน้าต่อได้ KTB, PTT, AOT กลุ่ม Defensive ที่มีปัจจัยขับเคลื่อน กลุ่มสื่อสาร ADVANC, TRUE, INTUCH กลุ่ม รพ. BDMS กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF ส่วนค้าปลีกทยอยตั้งรับ CPALL, CPAXT