เปิดบทสัมภาษณ์ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวเรือใหญ่โครงการ แจกเงินดิจิทัล
กระแสร้อนแรงไม่พัก สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่ประชาชนไทยจำนวนมากรอคอย หลังเปิดรับลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และรับสิทธิ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายอดคนลงทะเบียนรับสิทธิทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นาทีแรก เหนือความคาดหมายของรัฐบาลไปมาก ท่ามกลางความกังขาเรื่องงบประมาณจะมาจากไหน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ไว้ที่ 450,000 ล้านบาท ผ่านการใช้ 1.งบประมาณรายจ่ายประจำปี67 วงเงิน 165,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
-การตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบปี67 วงเงิน 122,000 ล้านบาท
-ที่เหลืออีก 43,000 ล้านบาท ใช้วิธีการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายปี67
2.การบริหารงบประมาณรายจ่ายปี68 วงเงิน 285,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
-งบประมาณรายจ่ายปี68 วงเงิน 152,700 ล้านบาท
-ส่วนที่เหลืออีก 132,300 ล้านบาทใช้วิธีการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายปี68
ซึ่งงบในส่วนที่เหลือ ทั้งจากปี 67 และปี68 รวมกันอยู่ที่ 175,300 ล้านบาท หลายฝ่ายยังมีคำถามว่ารัฐบาลเอามาจากไหน ใช้วิธีอะไร ??
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ แจงถึงความพร้อมของแหล่งงบประมาณเพื่อเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในส่วนที่เหลือ ว่า รัฐบาลมีกลไกลการจัดหางบประมาณ ซึ่งสามารถจัดการได้ ตามกลไกลปกติ
ประการแรก โอนเปลี่ยนแปลง คือ อะไรที่เห็นว่าในขณะนี้หมดความจำเป็น ก็โยกย้ายงบฯไปทำภาระกิจอื่นแทน
ประการที่สอง การใช้งบเหลือจ่าย คือ พอสิ้นปีงบประมาณบางจุดใช้งบฯไม่ทัน ไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้ เงินที่เหลือ ก็โอนมาทำภารกิจเรื่องของ Digital wallet ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นยังมีกลไกอื่นๆ เช่น การทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี67 ที่ทำกันอยู่ เรียกว่าการบริหารจัดการงบประเภทหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นว่าตัวเลือกของรัฐยังมีค่อนข้างกว้าง และสามารถบริหารจัดการได้ในกรอบเงินที่เรากำหนด แต่สิ่งที่เราอยากจะเห็นตอนนี้ คือ จำนวนยอดของประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ ถ้าเราเห็นยอดสุดท้าย จะบริหารง่ายขึ้น และสามารถบริหารงบฯให้เพียงพอ พอดี โดยที่เราจะไม่บริหารโดยเหลือเม็ดเงินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพราะเป็นการบริหารที่เกินกว่าความจำเป็น ซึ่งสุดท้ายก็ต้องรอดูยอดไปจนถึงวันปิดรับลงทะเบียน คือ วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 อย่างไรก็ตามที่รัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ที่ 450,000 ล้านบาท นั้น เนื่องจากพอเห็นคร่าวๆแล้วว่า จะดึงจากตรงไหนได้บ้าง
• โยกเงินที่เบิกจ่ายไม่ทันไปแจก Digital wallet ต้องออกพ.ร.บ.?
ไม่ต้องออกเป็นพ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงรายการใดๆ เพราะเป็นกลไกล และกรอบอำนาจหน้าที่รัฐบาล และสำนักงบประมาณ สามารถบริหารได้เอง
• ดึงงบฯปี68 ทำ wallet wallet กระทบงบลงทุนประเทศ?
ยืนยันว่า ไม่มีการดึงงบฯในส่วนของงบลงทุนมาใช้ในโครงการ Digital wallet แน่นอน เพราะเรายึดประโยชสูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ ถ้าโครงการที่มีการผูกพันงบประมาณผ่านทางงบฯรายจ่าย เราก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ รัฐก็ดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายเป็นปกติ แต่ในทางปฏิบัติก็รู้ทุกปีว่ามีสัดส่วนหนึ่งซึ่งไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้ รวมถึงเม็ดเงินที่สามารถกันมาใช้ในส่วนนี้ได้ ในส่วนอื่นมันก็บริหารจัดการได้อยู่แล้ว
“ไม่มีการดึง ไม่มีการบอกว่า มีโครงการจะทำถนน แล้วผมบอกไม่ให้ทำเพื่อที่จะเอามาทำโครงการอื่นมันไปทำอย่างนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีเหตุการณ์นี้ งบลงทุนยังอยู่ที่สัดส่วน 20%”
• คณะกรรมธิการงบฯ ห่วงขาดดุลเพิ่มเติ่ม กระทบฐานะการคลัง
ข้อเสนอแนะเรื่องการใช้งบฯ เราก็รับฟัง ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ปรับและทำแล้วมันจะดีขึ้นรัฐบาลได้ยินดีรับฟังแต่โครงการนี้ มีความเชื่อมั่นในหน่วยงานที่มาชี้แจง โดยรัฐบาลก็ดูค่อนข้างละเอียด รอบครอบ เราไม่ได้เร่งรัดทำให้โครงการฯ จึงทำให้โครงการมีความล่าช้ากว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ทั้งรัฐบาล และอาจารย์ วีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการงบฯปี 67 ก็เห็นตรงกันถึงข้อดีที่รัฐบาลใช้ กลไกของงบฯทำโครงการฯ แต่ที่ยังมองคนละมุมคือ เขาบอกว่ารัฐบาลทำใช้งบฯแบบนี้ทำให้ภาวะทางการคลังตึงตัว อาจจะเกิดปัญหาวิกฤต ซึ่งก็แน่นอนเราใช้งบฯ มีการขาดทุนเพิ่มขึ้น ภาวะการคลังก็ตึงขึ้นบาง
แต่ในขณะเดียวกันในมุมของรัฐบาล ก็มองว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรเลยกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ให้ประชาชนอยู่ตามยถากรรมสุดท้ายพี่น้องประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจดิ่งเหวอยู่แล้ว พอวิกฤตขึ้นมาแล้วเราค่อยมาคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร มันไม่ใช่วิธีการที่รัฐบาลควรจะทำ เราต้อง prevent เราต้องป้องกันไม่ให้วิกฤตมันเกิดขึ้นซะก่อน
• เศรษฐกิจไทยในขณะนี้ควรถอนคันเร่ง ไม่ใช่เพิ่มการขาดดุลต่อเนื่อง?
เรื่องนี้เป็นการมองด้านเศรษฐศาสตร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คณะกรรมธิการฯ อาจมองว่าถึงจังหวะเวลาหลังจากพ้นจากสถานการณ์โควิดที่จะผ่อนคันเร่ง แต่สำหรับรัฐบาลเราเห็นแล้วว่า หลังจากโควิดไทยเป็นประเทศเดียวที่ไม่รีบาวด์กลับไปอยู่ในจุดที่เราเคยเป็น เราเติบโตเรากลับคืนสู่สภาพปกติช้ากว่าคนอื่น ด้วยหลายๆปัจจัยเพราะฉะนั้น รัฐบาลยังเป็นความจำเป็นต้องเร่งเครื่องให้เศรษฐกิจเติบโตไปในจุดที่มีความเหมาะสม
รัฐบาลมีหน้าที่ในการเร่งเครื่องและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปในคราวเดียวกัน เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้มากกว่าระดับศักยภาพที่หลายคนมองเห็น ถ้ามองเห็นว่า ศักยภาพของเราโตได้แค่ 3% วันนี้เศรษฐกิจไตรมาส 2 รัฐบาลเร่งเครื่องขึ้นมา เศรษฐกิจเรากลับมาอยู่ที่ 2.7% แล้วจะบอกรัฐบาลต้องหยุด ไม่ต้องทำอะไรเลย อย่างนี้ความเดือดร้อนของประชาชนไม่หายไปไหน
“เราก็มีหน้าที่ต้องเร่งเครื่องก่อนในขณะเดียวกันปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปพร้อมกัน เพื่อที่วันหนึ่งเศรษฐกิจไทยจะสามารถโตได้มากกว่า 3% ไปอยู่ที่ 4% และ 5% ด้วยความแข็งแกร่งของทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการกระตุ้นของรัฐ”
• หากมีคนไปยื่นให้องค์กรอิสระตีความ
นั่นเป็นสิ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำงาน ประเทศไทยก็นักร้องเยอะอยู่แล้ว หากจะมีใครไปยื่นตีความ ตามที่ฝ่ายค้านเตรียมไว้ ก็เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ตามช่องทางที่รัฐธรรมนูญกำหนด เราก็มีหน้าที่ต้องไปชี้แจงให้เข้าใจว่าทั้งหมดเป็นไปตามกรอบกฎหมายอย่างไร เราทำได้แค่นั้น
• มั่นใจมั้ยว่าจะมีเงิน Backup ทันตามไทม์ไลน์
นี่เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ประกาศผลการลงทะเบียนหลังวันที่ 22 ก.ย.67 เพราะเรารอให้มีเม็ดเงินที่ชัดเจน เราถึงจะประกาศวันใช้จ่าย เพื่อให้มันเป็นไปตามพ.ร.บ.เงินตรา เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจริงๆแล้ว กระบวนการเช็กสิทธิ์ใช้เวลาไม่นาน
“เรามั่นใจ ว่าจะมีเงิน Backup ได้ตามกรอบเวลา เราเดินหน้าโครงการขนาดนี้แล้ว และพ.ร.บ.งบฯเพิ่มเติมก็เข้าสภาฯแล้ว สภาฯก็ให้ความเห็นชอบแล้ว ขณะที่งบฯปี68 ก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้แล้ว ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลจะเดินเครื่องเต็มที่ เชื่อว่าจะออกเม็ดเงินได้ปลายปียนี้แน่นอน”
• การหางบฯทำ Digital Wallet คือความท้าย?
การทำงานทุกอย่างมันมีความท้าทาย เราไม่อยู่บนความประมาณ ระมัดระวังทุกขั้นตอน ให้มันเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และเดินหน้าโครงการให้สัมฤทธิ์ผลตามที่ต้องการ คือกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้มากที่สุด ที่โครงการมีความล่าช้าไปบ้าง ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขไปบ้าง ก็เพราะตรงนี้ ขอให้ประชาชนเข้าใจ
- วันใช้จ่ายเงินจะเป็นช่วงไหนของธ.ค.67
ยังไม่สามารถระบุได้ในตอนนี้ ขอให้รอหน่อย ขอให้การพัฒนาตัวระบบเดินหน้าอีกนิด ให้เห็นโครงชัดๆ ถึงจะยืนยันวันใช้จ่ายได้ ตอนนี้ยังไม่กล้าตอบ ขึ้นอยู่กับระบบ แต่ก็เรารู้วันที่ส่งงานแล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะส่งงานได้เร็วกว่านี้หรือไม่
• กังวล นายกฯประสบอุบัติเหตุทางการเมือง จนกระทบต่อ Digital Wallet?
ไม่กังวล เพราะมีความเชื่อมั่นสิ่งที่นายกฯรัฐมนตรีทำ ในการแต่งตั้งบุคคลกรเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย มีการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เชื่อว่าไม่มีผลกระทบใดๆ อย่างไรก็มั่นใจว่าผ่าน ได้ไปต่อ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.