รมว.ต่างประเทศชง"ซอฟต์พาวเวอร์-เชื่อมโยงอาเซียน"ดึงเศรษฐกิจเข้าไทย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ถึงผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับว่า ตนเองได้นำเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์กับไทย อาทิ การผลักดันให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน , การเชื่อมโยง หรือ connectivity โดยการใช้ Digital connectivity เพื่อมุ่งหวังว่าจะผลักดันการเชื่อมโยงด้าน Digital economy เพื่อให้อาเซียนเป็นกลุ่มประเทศที่มีความเจริญเติบโตใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
ซึ่งจะรวมไปถึงการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว ที่ไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด และรัฐบาลสนับสนุนให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว , ไทยยังเสนอใช้กลไกของอาเซียนแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีผลกระทบต่อทุกประเทศ
พร้อมยังได้แลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรมกับประเทศคู่เจรจา อาทิ ไทยกับเกาหลี ที่มีการพัฒนา Soft Power ทำให้ความร่วมมือในกรอบของอาเซียนกับคู่เจรจาอย่างเกาหลีใต้ มีศักยภาพเพิ่มขึ้นโดยไทยเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญ เพราะนอกจากเรื่องของ Soft Power แล้วยังก้าวไปสู่ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวด้วย เพราะไทยก็มีบทบาทนำสามารถที่จะแลกเปลี่ยนกันได้
นายมาริษ ยังย้ำด้วยว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ยังคงมีการพูดคุยถึงปัญหาในเมียน ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญ หรือจุดมุ่งหมายที่ไทยและอาเซียนต้องการเห็น คือความมั่นคง และความมีเสถียรภาพของเมียนมา มิเช่นนั้นก็จะนำมาซึ่งปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาพรมแดน ยาเสพติด หรือออนไลน์สแกมเมอร์ โดยชาติสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ สนับสนุนข้อเสนอของไทยที่ต้องการเห็นการเจรจาที่สร้างสรรค์ มีทุกฝ่ายที่ครอบคลุมเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้มีการหารือทุกมิติและทุกกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเฉพาะชนกลุ่มน้อย กลุ่มติดอาวุธ และรัฐบาลทหารเมียนมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศที่มีพรมแดนติดกับเมียนมาด้วย
ทั้งนี้ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยยังได้มีโอกาสหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯให้การสนับสนุนไทยว่าน่าจะมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯในการแก้ไขปัญหาเมียนมา โดยใช้แนวทางของการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือทั้งการค้า การลงทุน สาธารณสุข และความเชื่อมโยงในระดับประชาชน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ยังได้หารือทวิภาคีแบบ Corridor กับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีนถึงการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด และมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.