ส่องกลยุทธ์ “SINOPEC” พลังงานยักษ์ใหญ่จีน หลังเข้าซื้อ SUSCO สัดส่วน 49%

แหล่งข่าวจากวงการพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ขายหุ้น บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด หรือ SDA บริษัทย่อยของ SUSCO ในสัดส่วน 49% ให้กับ บริษัท ไซโนเปค (ฮ่องกง) ที่เป็นบริษัทในเครือ SINOPEC เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา

ประกอบด้วย หุ้นสามัญ 48% และหุ้นบุริมสิทธิ 1% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด รวมเป็นเงินทั้งหมด 34 ล้านดอลลาร์ และเปลี่ยนชื่อ บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด เป็น บริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด เมื่อเดือน ส.ค.2566

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2566 ซัสโก้ ดีลเลอร์ ได้เปิดตัวปั๊มน้ำมันแบรนด์ SINOPEC SUSCO สาขารัชดา เป็นสาขาแรก ซึ่งปั๊มน้ำมันภายใต้การบริหารของ SDA ทั้ง 25 สถานี มี 20 สถานี ที่จะทยอยเปลี่ยนชื่อจาก SUSCO เป็น SINOPEC SUSCO ส่วนอีก 5 สถานี เป็นสาขาเปิดใหม่ และมีแผนขยายเป็น 100 สถานี ภายในปี 2573

ทั้งนี้ SUSCO จะไม่ขยายปั๊มน้ำมันแข่งกับ SINOPEC SUSCO ในรัศมี 1 กิโลเมตรสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา ศรีราชา ตัวเมืองเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ และในรัศมี 5 กิโลเมตร สำหรับพื้นที่อื่น

แหล่งข่าว กล่าวว่า ด้วยเทรนด์การดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป การที่ SINOPEC เข้ามาขยายตลาดปั๊มน้ำมันในประเทศไทยครั้งนี้ อาจจะมองถึงอีกโอกาสสำคัญ คือ การเพิ่มรายได้จากสายการบินของจีนและฮ่องกงที่มีจุดหมายปลายทางเป็นไทย อย่างน้อยธุรกิจการบินก็จะยังคงมีความจำเป็นในการเดินทางในระยะทางที่ไกล สวนทางกับปั๊มต่างชาติที่เริ่มถอยทัพหนี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจปั้มน้ำมันต่างต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจ Non-oil หรือธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมัน มากขึ้นในอนาคต เพื่อก้าวสู่พลังงานสะอาด ที่เป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจปั๊มน้ำมัน ก็อาจเป็นไปได้ว่า SINOPEC SUSCO เห็นเทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยที่มากกว่าการเข้ามาเติมน้ำมันในปั้มน้ำมัน

ทั้งนี้ ซัสโก้เองก็กำลังขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น ธุรกิจด้านการเงิน โดยได้ไปซื้อหุ้นในธุรกิจสินเชื่อรถบริษัทในเครือของสิงคโปร์ด้วย

ดังนั้น การขายหุ้นให้กับ SINOPEC เป็นการนำเงินมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร และหาทุนมาขยายธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่องในภาวะที่การแข่งขันรุนแรง ซึ่งซัสโก้เองได้ปรับการทำธุรกิจมาเป็นรุ่นลูก และไม่ทำธุรกิจกับคนไทย และใช้วิธีไปเป็นพันธมิตรกับต่างประเทศแทน

"ซัสโก้ ดีลเลอร์ส ก็ยังมีธุรกิจน้ำมันเครื่องบิน (JET) ถือเป็นอีกทางเลือกสำคัญที่ SINOPEC อาจเห็นโอกาสเพิ่มรายได้จากสายการบินของจีนและฮ่องกงที่มีจุดหมายปลายทางเป็นประเทศไทย รวมไปถึงสายการบินที่เป็นคู่ค้าเดิมของ SINOPEC ด้วย ดังนั้น การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้มองว่านักธุรกิจจีนมองโอกาสการลงทุนในไทยที่คุ้มค่าแล้ว" แหล่งข่าว กล่าว

รายงานข่าวระบุว่า "ซัสโก้" ได้จัดตั้ง บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด (SUSCO Beyond) ร่วมมือกับ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เปิดโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD โดยได้เปิดโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้า BYD แห่งแรกที่สาขาประตูน้ำพระอินทร์ ถือเป็นศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรแห่งแรก และหลังจากนี้จะมีศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถัง ตั้งเป้าหมายขยายครอบคลุมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี

ทั้งนี้ ซัสโก้ บียอนด์ ได้เข้ามาทำธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการเติบโตมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด อีกทั้ง BYD นับเป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกค้าอีกด้วย