คลัง แจงแจกเงิน Digital Wallet กลุ่มเปราะบางก่อน เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงกรณี กระแสข่าว รัฐบาลเตรียมแผนจ่ายเงิน โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ให้กับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.98 ล้านคนก่อน หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอวงเงิน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็นงบกลางปี ว่า เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน โดยทุกอย่างยังเดินหน้าตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ คือ เริ่มลงทะเบียนประชาชน และร้านค้า ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และเงินกระจายถึงมือประชาชนในไตรมาส 4 ปีนี้ ดังนั้นทุกอย่างยังเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิม
“ยังยืนยันว่า การจ่ายเงินในโครงการฯ เป็นการจ่ายงวดเดียวทั้งก้อน 5 แสนล้านบาท ทุกคนได้ 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคนได้พร้อมกัน ตอนนี้ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ข่าวที่ออกมาอาจเป็นความเข้าใจกันที่คลาดเคลื่อน โดยจะไม่มีการพิจารณากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ก่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกควรได้เงินพร้อมๆกันในระยะเวลาเดียวกัน ในจํานวนเงินที่เท่ากัน เพราะเราต้องการเม็ดเงินจำนวนมากๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรจะมีการทําเป็นแยกหลายๆภาคส่วน”นาย เผ่าภูมิกล่าว
สำหรับงบประมาณที่มาทำในโครงการ Digital Wallet ยังคงเหมือนเดิม คือ ส่วนหนึ่งก็มาจากงบกลางปีเพิ่มเติมของการบริหารงบประมาณปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยในส่วนนี้ได้ออกงบกลางปีจำนวน 122,000 ล้าน ส่วนที่ 2 มาจากที่ขยายงบขาดดุลของปี 2568 จำนวน 152,300 ล้านบาท และส่วนที่ 3 จากการใช้เงินตาม มาตรา 28 พระราชบัญญัติ วินัยการเงินการคลังปี 2561 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท
ส่วนงบประมาณที่ยังขาด จำนวน 10,000 ล้านบาท จะมีแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เติมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการเพิ่มเติม เมื่อรวมกับ เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 112,000 ล้านบาท จะอยู่ที่ จำนวน 122,000 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นรายละเอียดให้สํานักงบประมาณชี้แจง
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการในการกระตุ้นการเพิ่มเม็ดเงินในเชิงสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมาย ส่วนรายละเอียดอยากให้รอความชัดเจนจาก ครม. ก่อน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง เพราะต้องยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันยังมีความน่ากังวล เนื่องจากประชาชนยังมีปัญหาด้านกำลังซื้อ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบไปยังภาคการผลิตก็จะไม่เกิด ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนมาตรการในการกระตุ้นตลาดทุนนั้น กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.