สัญญาณจีนดูดีขึ้น หุ้นไทยลุ้นฟื้นกรอบ 1340-1370 จุด

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า คาด SET วันนี้ “ลุ้นฟื้นตัว” ในกรอบ 1340-1370 จุด หลังผ่านพ้นการปรับพอร์ต MSCI ผสานตัวเลขเศรษฐกิจ US หนุนการลดดอกเบี้ยมากขึ้น และ PMI จีน บ่งชี้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว อย่างไรก็ดี อาจมีแรงถ่วงจากกลุ่มพลังงานจากการผิดหวังผลประชุม OPEC+ สุดสัปดาห์

     ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นสะสมหุ้นแนวโน้มกําไรดี แนะนํา “HANA” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 44.75 บาท คาดแนวโน้ม 2024 ฟื้นตัวได้เบาๆ และคาดเร่งขึ้นในช่วง 2H24 ทั้งจากคำสั่งสินค้าใหม่ และ ลูกค้าใหม่ที่จะทยอยเข้ามาตั้งแต่ 2024 เป็นต้นไป กลุ่ม PCBA ยังดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะ กลุ่มรถยนต์ อุตสาหกรรม และการแพทย์ และยังได้ส่วนแบ่ง การตลาดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นประเมินเป็นจังหวะสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว

     ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานตัวเลข เศรษฐกิจสําคัญหลายตัว ทั้ง US Core PCE เดือน เม.ย. ออกมาทรงตัวที่ระดับ +2.8%y-y ตามคาด ส่วนดัชนี ISM ภาคการผลิต เดือน พ.ค. ชะลอตัวลงสู่ ระดับ 48.7 จุด จาก 49.2 ซึ่งสวนกับตลาดที่คาดว่าจะ เพิ่มขึ้นสู่ 49.5 จุด โดยตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ช่วยสนับสนุนโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ย US เดือน ก.ย. กลับมาเร่งขึ้นสู่ระดับ 53.5% และทําให้ Dollar Index (DXY) ย่อตัวกลับมาทดสอบระดับ 104 จุดอีกครั้ง เช่นเดียวกับ 10Y-US Bond Yield ที่ลดลงสู่ระดับ 4.4% คาดเพิ่มแรงเก็จสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น

     ส่วนด้านจีน วานนี้รายงานตัวเลข Caixin PMI ภาค การผลิต เดือน พ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ 51.7 จาก 51.4 จุด ดีกว่าคาดที่ 51.6 จุด ยังสะท้อนการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจจีนต่อเนื่อง คาดเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมต่อ ตลาดหุ้นเอเชียในช่วงถัดไป

     แต่ราคาน้ำมันดิบโลกย่อตัวแรง หลังผิดหวังการประชุม OPEC+ ที่แม้ว่ามีมติขยายเวลาลดกําลังการผลิต 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวันที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ไปเป็นสิ้นปีหน้า และขยายระยะเวลาลดกําลังการผลิตแบบสมัครใจของ 8 ประเทศที่ราว 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปเป็น ก.ย. จากเดิมสิ้นสุด มิ.ย.นี้ แต่จะเริ่ม DXY อ่อนค่า สะท้อนโอกาสลดดอกเบี้ย ก.ย. มากขึ้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้(4 มิ.ย.67) “ฟื้นตัวตามแนวต้าน 1,359 / 1,364 จุดโซนแนวรับวางไว้ 1,343 - 1,340 จุด” ตลาดหุ้นสหรัฐและเอเชียฟื้นเด่น ช่วงไทยปิดทำการ แรงกดดัน US Bond Yield อายุ 10ปี ช่วงไทยปิดทำการคลายตัว ลงรวม -20 bps สู่ 4.4% หลังจากเงินเฟ้อ PCE เม.ย. 24 +0.3%m-m ทรงตัวจาก prev. ตามคาด และมีสัญญาณชี้นำโอกาสเงินเฟ้อค่อยๆลดลง ระยะถัดไป อาทิ ยอดจับจ่ายผู้บริโภค +0.2%m-m รวมถึง PMI ภาคผลิต (ISM) พ.ค. 24 ต่ำกว่าคาด อยู่ในระดับหดตัว 2 เดือนต่อกัน 

     ขณะที่พัฒนาการฝั่ง Asia ในจีนยังเป็นบวก PMI ภาคผลิต Caixin เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 เดือนอยู่ที่ 51.7 จุดทำจุดสูงสุดในรอบราว 2 ปี  มองหนุนจิตวิทยาบวกฝั่ง Asia โดยเฉพาะ SET ที่ผ่านการปรับฐานความกังวลหลากหลายไปแล้ว รวมถึงการ Rebalance ของ MSCI 

     ปัจจุบัน SET อยู่ในโซนลงทุน ค่า Current และ Forward Equity Risk Premium (ERP) ล่าสุดอยู่ในกรอบ 3.4-4.0% (> Avg 3.06%) ประเมิน SET อยู่ในโซนฐานที่มีโอกาสเริ่มฟื้นตัว มองหุ้นนำ กลุ่ม Yield พีคในรอบนี้หนุน (ชิ้นส่วน,เช่าซื้อ,โรงไฟฟ้า) กลุ่มได้ประโยชน์ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง กลุ่มอิงจีน วันนี้แนะ MTC, BTS (Bottom Out Plays) , BJC

     ทั้งนี้แท่งเทียนปิดลบในลักษณะของ LONG BLACK LINE ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 10,50  วันและ VWAP โดยเครื่องมือทางด้านเทคนิคหลายตัวยังคงมีสัญญาณเชิงลบ ทั้ง RSI (< 50%) และ MACD ยังคงต่ำกว่าแกน 0 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 

     อย่างไรก็ตาม เครื่องมือทางด้านเทคนิคบางตัว อาทิ MODIFIED STOCHASTIC เริ่มบ่งชี้ถึงภาวะ OVERSOLD อีกทั้งดัชนียังสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,340 จุดได้ จึงให้น้ำหนักดัชนีมีภาพฟื้นตัวตามแนวต้าน 1,359 / 1,364 จุดโดยวางโซนแนวรับไว้ 1,343 - 1,340 จุด สำหรับ SET50 ให้น้ำหนักฟื้นตัวตามแนวต้าน 837 / 840 แนวรับวางไว้ 823 - 820

     คำแนะนำนักเก็งกำไรที่ได้พิจารณาแบ่งขายทำกำไรตามแนวต้านที่กำหนด เน้นพิจารณาทยอยซื้อคืนตามแนวรับที่วางไว้อีกครั้ง โดยเก็งกำไร หุ้น KCE เป้าหมาย 42.50 / 44.00 บาท แนวรับ 40.75 บาท จุดตัดขาดทุน 40.00 บาท 

     TASCO เป้าหมาย 17.50 / 18.00 บาท แนวรับ 16.90 บาท จุดตัดขาดทุน 16.60 บาท

     BTG เป้าหมาย 25.50 / 26.00 บาท แนวรับ 24.70 บาท จุดตัดขาดทุน 24.30 บาท

     SJWD เป้าหมาย 14.80 / 15.20 บาท แนวรับ 14.20 บาท จุดตัดขาดทุน 13.90 บาท