ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย สัปดาห์นี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น-ตลาดหุ้นไทยปิดบวก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค.2567 ว่า ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท พบว่า เงินบาทแข็งค่าหลุดแนว 37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังผลการประชุมเฟด และสัญญาณการเข้าแทรกแซงสกัดการอ่อนค่าของเงินเยนจากทางการญี่ปุ่น

เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดย เงินเยนซึ่งอ่อนค่าทะลุแนว 160.00 ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี ที่ 160.17 เยนต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงกดดันต่อเนื่องหลังการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รอบที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาตามทิศทางเงินเยนที่พลิกแข็งค่าขึ้นอย่างมาก ขณะที่ตลาดมีความกังวลต่อสัญญาณการเข้าดูแลค่าเงินเยน หลังมีข้อมูลอย่างเป็นทางการเปิดเผยออกมาว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดในสัปดาห์นี้เพื่อพยุงค่าเงินเยน (ด้วยการเข้าซื้อเงินเยนและขายเงินดอลลาร์ฯ) หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังขาดแรงหนุน หลังผลการประชุมเฟด (30 เม.ย.-1 พ.ค.) ที่แม้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่กรอบ 5.25-5.50% ตามเดิม แต่ก็มีการประกาศรายละเอียดของกระบวนการชะลอการลดงบดุล ซึ่งปัจจัยนี้กดดันบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ให้ปรับตัวลง ประกอบกับถ้อยแถลงของประธานเฟดยังคงย้ำถึงการรอจังหวะลดดอกเบี้ยเมื่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ กลับลงไปอยู่ในระดับที่เฟดสบายใจ และปฏิเสธโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นท่าทีที่แข็งกร้าว (Hawkish tone) น้อยกว่าที่ตลาดคาด

ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.96 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (26 เม.ย. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,170 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 7,145 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 8,395 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 1,250 ล้านบาท)

สัปดาห์ถัดไป (6-10 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณการเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินเยนของทางการญี่ปุ่น ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งจะมีผลกระทบต่อทิศทางเงินทุนต่างชาติ การเคลื่อนไหวของค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. ของจีน ยูโรโซน และญี่ปุ่น ตัวเลขการส่งออกเม.ย. ของจีน รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองของผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยยังปิดบวก แม้ภาพรวมจะแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดสัปดาห์ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน แม้ในช่วงแรกกรอบการปรับขึ้นของ SET Index จะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากมีปัจจัยกดดันจากตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ของไทยที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน การปรับประมาณการจีดีพีไทยปีนี้ลงมาที่ 2.4% โดยกระทรวงการคลัง และแรงขายหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง แต่หุ้นไทยดีดตัวขึ้นชัดเจนในเวลาต่อมาท่ามกลางแรงซื้อคืนหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจากการคาดการณ์เรื่องผลประกอบการ ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากทิศทางหุ้นภูมิภาคในช่วงปลายสัปดาห์หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวลงต่อเนื่องจากช่วงหลังผลการประชุมเฟด

อนึ่งหุ้นไทยย่อตัวลงสั้นๆ ช่วงกลางสัปดาห์ หลังวันหยุดแรงงาน ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง
ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,369.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.73% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,955.64 ล้านบาท ลดลง 0.11% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.45% มาปิดที่ระดับ 389.46 จุด

สัปดาห์ถัดไป (6-10 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,355 และ 1,345 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,375 และ 1,385 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย.ของจีน ญี่ปุ่นและยูโรโซน การประชุม BOE และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของอังกฤษ ตลอดจนตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย.ของจีน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.