กลับตัวไม่ได้ไปไม่ถึง! SETผันผวนหวังแรงซื้อหุ้นน้ำมันดีด-วอลุ่มบาง

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ลดลง 9 จุด (-0.65%) ปิดที่ระดับ 1,372 จุด บาทอ่อนค่า, Fund flow ไหลออก กดดันหุ้น Big Cap โดยเฉพาะกลุ่มที่มีหนี้เป็น US Dollar จำนวนมาก อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม ปตท.

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(26 มี.ค.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,365 - 1,380 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังรัสเซียสั่งควบคุมการผลิตน้ำมันตามคำมั่นสัญญากับกลุ่มโอเปกพลัส อย่างไรก็ตามกระแส Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกจากความกังวลด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะเป็นตัวกดดันดัชนีในช่วงนี้ จึง แนะนำซื้อเล่นรีบาวด์แบบ Selective buy ต่อไป

     "กราฟ SET ล่าสุดทรุดตัวลงแรงหลุดเส้น EMA 10 วันลงมาเกิดเป็นโมเมนตัมเชิงลบ นอกจากนี้เครื่องมือ RSI + MACD ทิ้งตัวลงเป็นสัญญาณลบกดดันต่อทิศทางดัชนีในช่วงนี้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,365 / 1,360 จุด จึงแนะนำซื้อช่วงอ่อนตัวโดย Cut loss หากหลุด 1,350 จุด"

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ SPRC (ปิด 8.65 ซื้อ/เป้า 10.40 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และน่าจะพลิกมีกำไรสุทธิได้ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไปจาก Crude run ที่เพิ่มขึ้นจาก 88% ใน 4Q23 เป็น 95% ในปัจจุบัน และคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อก น้ำมันดิบตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเทียบกับ 4Q23 ที่ขาดทุน

     ITC (ปิด 19.20 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 23.50 บาท) ได้ Sentiment บวกค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 36.3 บาท อ่อนค่ามากสุดในรอบ 5 เดือน เป็นบวก ITC เพราะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 90% ของรายได้รวม, ต้นทุนทูน่าลดลงต่อเนื่อง, ยอดส่งออกมีลุ้นเป็นบวก 5 เดือนติดต่อกัน

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+) น้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้นรัสเซียจำกัดการผลิตตามมติโอเปกพลัสและยูเครน ยังพุ่งเป้าโจมตีโรงกลั่น : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.32$ (+1.6%) ปิด ที่ระดับ 81.95$/bbl หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียสั่งจำกัดการผลิตน้ำมันดิบเพื่อให้ เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับกลุ่มโอเปกพลัส นอกจากนี้การโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน ของยูเครนทำให้โรงกลั่นเสียหายกระการกลั่นราว 10% ของรัสเซีย

     (+/-) กระเป๋าเงินดิจิทัลฯ ยังดำเนินต่อแต่คาดเบิกจ่ายได้จริงปลายปีนี้ : มาตรการกระเป๋าเงินดิจิทัลฯ ยังอยู่ในกระบวนการทำงาน โดย รมช. ระบุจะมีการ เรียกประชุมคณะกรรมการดิจิทัลฯ ชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย. เพื่อสรุปและส่งให้ ครม. พิจารณา แต่คาดว่าการเบิกจ่ายจริงตามมาตการคาดว่าจะอยู่ในช่วง 4Q24

     (+) ลุ้นตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.พ. ขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน: ก. พาณิชย์จะรายงานยอด ส่งออก/นำเข้า เดือน ก.พ. ในเช้าวันนี้ เบื้องต้น Consensus คาดยอดนำเข้าจะขยายตัว 4.4%yoy ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แต่ลดลงจากเดือน ม.ค. ที่ขยายตัว 10%yoy ส่วนยอดนำเข้าคาดเพิ่มขึ้น 1.5%yoy ลดลงจากเดือน ม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 2.6%yoy

VOLUME ไม่มา ราคาไม่ไป

          ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แม้จะขยายระยะเวลาซื้อขาย จาก 270 นาที/วัน เป็น 300 นาที/วัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้มูลค่าการซื้อขายปรับสูงขึ้น ภาวะดังกล่าวสะท้อนว่าตลาดหุ้นอยู่ในภาวะที่ขาดแรงขับเคลื่อน และหากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ ก็ยังอยู่ในสภาวะที่ไม่แตกต่าง 

     โดยวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขการส่งออก - นำเข้า ซึ่งคาดหมายว่าจะเห็นการส่งออกเติบโต 4.35% YOY ส่วนเรื่องความคืบหน้า DIGITAL WALLET แม้เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น เบื้องต้นคาดเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนในงวด 3Q67และเติมเงินเข้าสู่ DIGITAL WALLET ใน 4Q67แต่ก็ต้องรอดูแหล่งเงินทุน ซึ่งจะเป็นตัวที่ยืนยันความเป็นไปได้ของโครงการ ทั้งนี้หากพิจารณาจากกรอบเวลาก็เป็นไปได้ที่จะเห็นการใช้เงินบางส่วนจากงบประมาณปี2568 

     สำหรับปัจจัยในต่างประเทศจุดสนใจอยู่ที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นสภาพแวดล้อมที่ไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ คาดว่าจะทำให้มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง และ SET INDEX อยู่ในภาวะผันผวน วันนี้ประเมินกรอบ 1368 - 1383 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก PTT ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท , TASCO ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท และ WHA ราคาเป้าหมาย 5.95 บาท

ผันผวนสูงแต่ลุ้นฟื้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้ม SET INDEX วันนี้แท่งเทียนกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น DOWNTREND และ EMA 10,50 วันต่อเนื่อง ในลักษณะของ HIGH WAVE บ่งชี้ถึงความผันผวนที่มีค่อนข้างสูง โดยที่เครื่องมือทางด้านเทคนิคส่วนใหญ่กลับมามีสัญญาณเชิงลบเช่นกัน อาทิ RSI เริ่มพลิกกลับมาต่ำกว่าระดับ 50 % และ MACD ยังคงอยู่ต่ำกว่าแกน 0 

     รวมถึง MODIFIED STOCHASTIC ที่เริ่มมีสัญญาณเชิงลบ (%K < %D) จึงให้น้ำหนัก SET มีลักษณะผันผวนสูงแต่ลุ้นฟื้นตัวจากแนวรับ 1,368 / 1,361 จุด โดยมีแนวต้านขยับลง 1,380 / 1,386 จุด

     ส่วน SET50 ให้น้ำหนักผันผวนตามแนวรับ 838 / 835 จุด โดยยังวางแนวต้านขยับลงที่ 845 / 850 จุด เช่นเดียวกัน

     สำหรับนักลงทุนระยะสั้นแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวเป็นหลัก

     BAM เป้าหมาย 10.50 / 11.00 บาท แนวรับ 9.85 / 9.60 บาท

     CKP เป้าหมาย 4.18 / 4.26 บาท แนวรับ 3.96 / 3.86 บาท

     PLANB เป้าหมาย 8.80 / 8.95 บาท แนวรับ 8.40 / 8.25 บาท

     WARRIX เป้าหมาย 6.25 / 6.40 บาท แนวรับ 5.80 / 5.60 บาท