ลุ้นราคาทองสัปดาห์นี้แตะ 2,200 ดอลลาร์แต่ต้องจับตาผลประชุมเฟดทำราคาแกว่ง

ฮั่วเซ่งเฮงวิเคราะห์ทิศทางราคาทองสัปดาห์นี่ว่าการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ในวันที่ 19-20 มี.ค.2567 อาจทำให้ราคาทองคำผันผวน สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,144 ดอลลาร์ และ 2,120 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,180 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,200 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 36,550 บาท และ 36,400 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 36,900 บาท และ 37,000 บาท

รวมถึงจากการวิเคราะห์ราคาทองคำ High ของ Candlesticks ยกตัวต่ำลงเรื่อย ๆ ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำรายวันเริ่มดูไม่ดี โดย MACD ตัด Signal line ลงมา และ Modified Stochastic เกิดเส้น %K ตัดเส้น %D ลงมา ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง 

สำหรับปัจจัยหนุนราคาทอง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาสและธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ขณะทีเฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยระดับสูงนานขึ้น เป็นปัจจัยลบ

อย่างไรก็ตามสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ spot เริ่มปรับตัวลง หลังจากที่ผ่านมานั้นราคาทองคำ spot ได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ที่ 2,195 ดอลลาร์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ราคาทองคำ spot ได้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 92.72 ดอลลาร์ หรือ 4.49% จากต้นปี ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำนั้นมาจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะจีน และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความกังวลด้านสงคราม 

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำ spot เริ่มเกิดแรงเทขายออกมาสัปดาห์ก่อน หลังจากที่เงินเฟ้อสหรัฐทั้ง CPI และ PPI สูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะอยู่นานขึ้น โดยนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักจำนวนครั้งของการที่เฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้น้อยลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองคำ spot จะปรับตัวลง แต่ราคาทองคำแท่งในประเทศได้ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) อีกครั้งในสัปดาห์ก่อน ที่ 36,750 บาท จากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งมาจากดอลลาร์แข็งค่า และมีต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิเกือบ 3,800 ล้านบาท ทั้งนี้เงินบาทได้อ่อนค่ากว่า 4.60% จากต้นปี

ส่วนราคาทองสัปดาห์นี้จะมีการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค.2567ส่งผลกระทบ ทั้งนี้คาดว่าเฟดจะยังคงดอกเบี้ยระดับเดิมที่ 5.25%-5.50% แต่สิ่งสำคัญที่ต้องติดตาม คือการแถลงของประธานเฟด และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ 

ทั้งกรณีเฟดมีการปรับเปลี่ยนมุมมองจากครั้งก่อนหรือไม่? การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในเดือนธ.ค.2566 เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งในปี 2568 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.00% และปี 2569 เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลงสู่ช่วง 2.00-2.25% ซึ่งใกล้กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ระดับ 2.50%

หากเฟดส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย ผ่านการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ โดยแบ่งเป็น 3 กรณี

กรณีที่ 1 : เฟดยังส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้เช่นเดิม อาจทำให้ราคาทองคำเกิด Sell on fact ได้เล็กน้อย เนื่องจากตลาดซึมซับการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งของเฟด

กรณีที่ 2 : เฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้งในปีนี้ สะท้อนถึงเฟดอาจยังมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐ จึงเป็นปัจจัยทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ระดับสูงยาวนานขึ้น กรณีนี้จะทำให้เกิดแรงเทขายออกมาอย่างร้อนแรง มีโอกาสทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปสู่ 2,100 ดอลลาร์ สัญญาณทางเทคนิคจะเปลี่ยนจากขาขึ้นไปสู่ขาลง

กรณีที่ 3 : เฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงอีกครั้ง ขานรับการลดดอกเบี้ยของเฟดที่มากขึ้น และอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสู่ All-Time High

ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 18-22 มี.ค.67 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ พบว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 339 ราย ในจำนวนนี้มี 202 ราย หรือเทียบเป็น 60% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 103 ราย หรือเทียบเป็น 30% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 34 ราย หรือเทียบเป็น 10% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 36,500 – 36,750 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 36,700 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 200 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 36,500 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2567 ซึ่งนักลงทุนคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ Fed Watch Tool ของ CME ชี้ว่านักลงทุนเทน้ำหนักกว่า 65% ว่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิถุนายน 2567

2. การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ซึ่งเศรษฐกิจอังกฤษประสบกับภาวะซบเซา และต้นทุนการนำเข้าพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน โดยคาดการณ์ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ทั้งนี้ อาจส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตหากอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง

3. การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2567 โดยคาดการณ์ว่า BOJ อาจยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบภายในเดือน เมษายน 2567 และจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปหรือไม่

4. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ข้อมูลเบื้องต้นของ PMI สำหรับเดือน มีนาคม 2567 เป็นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการณ์​การขยายตัวหรือหดตัวของภาพรวมภาคการผลิตและบริการ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์