ปีนี้ CIMB THAI พุ่งเป้าสินเชื่อโต 5% เร่งกลุ่มออโต้คู่ปล่อยกู้อาเซียน
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ปี 2567 ในปีนี้ว่าตั้งเป้าขยายการเติบโตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ลดปริมาณสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ NPL) ลง ซึ่งต้องไมเกิน 3.3 - 3.5% เช่นเดียวกับที่คงอัตราส่วนต้นทุนทางการเงิน (CIR) ไว้ที่ต่ำกว่า 50%
โดยปัจจุบันธนาคารมีปริมาณสินเชื่อบ้าน 1.2 แสนล้านบาท และมีปริมาณสินเชื่อยานยนต์ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รวมกันที่ราว 3.4 หมื่นล้าน
"ภายใน 3-4 ปี ข้างหน้าธนาคารจะทยอยลดสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่และเอสเอ็มอีลงจาก (2.5% เหลือต่ำกว่า 1%) ทำให้คาดว่าต่อไปภายใน 5 ปีข้างหน้าอัตราส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อรายใหญ่จะอยู่ที่ 70:30"
นอกจากนี้ CIMB THAI ยังคงมุ่งมั่นชูวิสัยทัศน์ในการเป็น ‘Digital-led Bank with ASEAN Reach’ หรือ ‘ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล’ โดยอาศัยเครือข่ายความแข็งแกร่งในฐานะกลุ่มการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคของ CIMB Group เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในประเทศไทยด้วยจุดแข็งของซีไอเอ็มบี ไทย ได้แก่ ASEAN, Digitalization, Wealth & ผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อลูกค้ารายย่อย และ Sustainability
ทั้งนี้ในปี 2567 ธนาคารยังคงโฟกัสตลาด ASEAN เป็นหลัก จากจุดแข็งของเครือข่าย know how ของทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และการประสานงานเชื่อมโยงเครือข่ายแบบไร้รอยต่อกับทีมงานประเทศต่าง ๆ ในเครือข่ายกลุ่ม CIMB ทั่วอาเซียนมาอย่างต่อเนื่องหลายปี จนสามารถพาบริษัทไทยขยายธุรกิจข้ามประเทศได้สำเร็จ โดยปี 2566 ลูกค้าไว้วางใจให้ธนาคารพาไปเปิดตลาดใหม่ด้วย ASEAN Total Solutions ส่งผลให้ธุรกรรมข้ามพรมแดนเติบโตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับปีนี้ ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อในอาเซียนเติบโต 10% เพื่อให้บริการลูกค้า ที่ต้องการให้ธนาคารสนับสนุนการขยายธุรกิจในมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา คู่ขนานไปกับการดูแลธุรกรรมทางการเงินให้แก่ลูกค้าองค์กรและสถาบันการเงินในประเทศ ผ่านสินเชื่อ บริการธุรกรรมจัดการเงิน บัญชีธุรกิจ และบริการชำระเงิน โดยปีนี้จะให้น้ำหนักกับตลาดอินโดนีเซียมากขึ้น
นอกจากนี้ CIMB Thai ยังตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำตลาด และที่หนึ่งในใจลูกค้า Wealth Management ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีความท้าทาย ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการแนะนำลูกค้า เลือกลงทุนให้ถูก ‘จังหวะ’ ผ่านการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารคัดสรรมาให้ลูกค้า ทั้งหุ้นกู้ในตลาดแรก หุ้นกู้ตลาดรอง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เงินฝากดอกเบี้ยสูง เงินฝากสกุลต่างประเทศ (FCD) กองทุน ประกัน บริการ Wealth Credit Line (วงเงินพิเศษเพื่อมอบสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มีเงินลงทุนกับธนาคาร)
พร้อมนำลูกค้าไปลงทุน Offshore fund โดยเฉพาะ Alternative Investment มีความน่าสนใจที่ไม่อ้างอิงต่อปัจจัยหลักอย่างทิศทางดอกเบี้ยหรือค่าเงิน แต่อยู่บนสินทรัพย์ที่ไปลงทุน ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจและฐานสมาชิก CIMB Preferred (ลูกค้าที่มีเงินฝากหรือเงินลงทุน 3 ล้านบาทขึ้นไป) ให้เติบโตอีก 12% จากปัจจุบันมีลูกค้า 1 แสนราย
นอกจากนี้ยังครองอันดับ 1 ‘หุ้นกู้’ ด้วยมูลค่าการค้าตราสารหนี้ปี 2566 ทะลุ 7 แสนล้านบาท และคว้ารางวัลระดับโลก 10 ปีซ้อน สะท้อนความเชี่ยวชาญของทีม Treasury & Markets ที่ดูแลการลงทุนช่วยลูกค้ามีสภาพคล่องผ่านบริการรับซื้อ – ขายหุ้นกู้
ด้านธุรกิจรายย่อย นายพอลกล่าวว่าจะโฟกัสที่สินเชื่อยานยนต์ โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ได้เปิดตัว ‘One Auto Platform’ บริการสินเชื่อยานยนต์ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ ผ่านบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคาร โดยจะยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับตลาด และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจผ่านบริการใหม่ อาทิ สินเชื่อจำนำทะเบียนทั้งแบบโอนเล่ม และไม่ต้องโอนเล่ม
นอกจากนี้ ทุกมิติของการทำธุรกิจจะขับเคลื่อนบนแกน Sustainability สอดรับกับเป้าหมายกลุ่ม CIMB ที่จะบรรลุ Green, Social Sustainable Impacted Products and Services (GSSIPS) จำนวน 1 แสนล้านริงกิต หรือ 7.7 แสนล้านบาทในปี 2567 โดยปี 2566 ทีมสินเชื่อรายใหญ่ได้สนับสนุนสินเชื่อความยั่งยืน จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ในการทำงานบนวิถีความยั่งยืน Net Zero ปี 2567 ตั้งเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 36% เทียบกับปี 2562 (scope 1 และ 2) และเพื่อปลุกกระแสสังคมรวมพลังสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ปีนี้ ธนาคารจะจัดสัมมนา The Cooler Earth Sustainability Series ตลอดทั้งปี ทั้งการฉลองวันสิ่งแวดล้อมโลก, เสวนาโต๊ะกลมสินเชื่อยั่งยืน และสัมมนาใหญ่ร่วมกับ UN ESCAP ขึ้นอีกครั้ง หลังจากจัดขึ้นครั้งแรกปี 2566
“เราโฟกัส ASEAN, Digitalization, Wealth & Consumer Finance Solutions และ Sustainability โดยยึดลูกค้าเป็นหัวใจ (Customer-centric) ส่งผลให้เราได้รับการจัดอันดับจาก Rakuten Group ในปี 2566 ให้เป็นธนาคารที่ลูกค้าให้คะแนนความพึงพอใจเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับตลาด (คะแนน NPS : Net Promoter Score) ด้วยคะแนน 85 ที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 63 ในปีก่อนหน้า"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.