1400 ด่านใหญ่ใจว้าวุ่น! SET ระวังแรงขายท้ายตลาดรับ FTSE Rebalancing

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า สหรัฐฯรายงานดัชนีผู้ผลิต (US PPI) เดือนกุมภาพันธ์ ที่ +1.6%y-y เร่งจากเดือนมกราคมที่ +1%y-y และสูงกว่าคาดที่ +1.2%y-y เช่นเดียวกับ Core PPI ที่ +2%y-y สูงกว่าคาดที่ +1.9%y-y เพิ่มแรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายของ FED ในช่วงถัดไป

     โดยหากพิจารณาจากเครื่องมือ FED Watch Tool ล่าสุดให้โอกาสการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯในเดือนมิถุนายน ลดเหลือ 57% จากวันก่อนที่ ให้โอกาสราว 60% อย่างไรก็ดีการประชุม FED รอบนี้ (19-20 มีนาคม) ก็ยังคาดว่า FED จะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม แต่คงต้องจับตารายงาน Dot Plot ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

     ด้านตัวเลขเศรษฐกิจตัวอื่นๆ พบว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ +0.6%m-m ต่ำกว่าคาดที่ +0.8%m-m และยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US ทรงตัวที่ +2.09 แสนคน แต่ต่ำกว่าคาดที่ +2.18 แสนคน

     ส่วน SET วานนี้(14 มี.ค.67)ได้แรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าขับเคลื่อนดัชนีเข้าใกล้ 1400 จุด สอดคล้องกับพัฒนาการเชิงบวกของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นฝ่ายกลยุทธ์ยังคาด SET ในช่วงถัดไปมีโอกาสทะลุแนวต้านดังกล่าวได้ แต่วันนี้(15 มี.ค.67)ในช่วงท้ายตลาดอาจมีปริมาณการซื้อขายมาก และผันผวนขึ้น เนื่องจากจะมีการปรับพอร์ต FTSE Rebalancing โดยหุ้นไทยรอบนี้ส่วนใหญ่ถูกนำออกจากดัชนี ดังนั้นอาจเป็นแรงกดดันในช่วงสั้นที่ต้องระมัดระวัง

     คาด SET วันนี้ “ผันผวน” ในกรอบ 1390-1405 จุด ดัชนี US PPI สูงกว่าคาด ลดโอกาสในการลดดอกเบี้ย US เดือน มิ.ย. เหลือ 57% ผสานกับปัจจัยในประเทศวันนี้จะมี FTSE Rebalancing อาจทำให้วอลุ่มเทรดสูง และตลาดผันผวนช่วงท้ายตลาด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ย่อสะสม โดยเน้นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผลสูง

     วันนี้แนะนำ “SCB” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 120 บาท ประกาศจ่ายปันผล 7.84 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราปันผล 6.8% คิดเป็น Payout ratio สูงถึง 80% ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดมาก (XD 17 เม.ย.) ผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่ดีกว่าคาด และยังเป็นธนาคารที่มีความชัดเจนในการเพิ่ม ROE ในระยะยาว จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนต่อผลการดำเนินงานและ Valuation ในช่วงถัดไป

1400 ด่านโหด

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index พุ่งแรง 10 จุด (+0.75%) ปิดที่ระดับ 1,395 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,647 ล้านบาท หนุนหุ้น Big Cap ปรับตัวขึ้นเด่น นำโดย กลุ่ม น้ำมัน, โรง กลั่น และ ปิโตรฯ

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,385 - 1,405 จุด ภาวะตลาดกลับมากังวลเงินเฟ้อสหรัฐ อีกครั้งหลังดัชนี PPI เพิ่มขึ้นเกินคาดโดย +1.6%YoY ส่งผลให้ FED ตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานและหนุนให้ US Bond yield พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อดัชนี อย่างไรก็ตามแรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันตึงตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้

     "กราฟ SET ยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวกจากการไต่ระดับขึ้นไปตามรูปแบบกลับตัว W shape และยืนเหนือเส้น EMA 10 วันต่อเนื่อง ประกอบกับเครื่องมือ RSI บวก MACD ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทางเชิงบวก ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,400/ 1,405 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรโดยถือหุ้นต่อได้หากดัชนีไม่หลุด 1,380 จุด ส่วนในระยะกลาง-ยาว ถือหุ้นเพื่อขาย 1,400 / 1,420 จุด ยกเว้นหลุด 1,380 จุดให้ลดพอร์ทลง"

หุ้นแนะนำวันนี้

     PTTEP (ปิด 153 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 179.5 บาท) เป็น Oil link Company ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นยืนเหนือระดับ 80$/bbl และทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากกังวลอุปทานตึงตัวจากส ต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลง และ มีข่าวยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซีย

     SPRC (ปิด 9.1 ซื้อ/เป้า 10.40 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และน่าจะพลิกมีกำไรสุทธิได้ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไปจาก Crude run ที่เพิ่มขึ้นจาก 88% ใน 4Q23 เป็น 95% ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังมี Sentiment บวก จากข่าวยูเครนยิงโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซีย

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (-) ตลาดกลับมาวิตกกับภาวะเงินเฟ้ออีกครั้งหลังดัชนี PPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 138 จุด (-0.35%) ปิดที่ระดับ 38,906 จุด หลัง สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตทั่วไป (Headline PPI) เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.6% สูงกว่า Consensus คาดไว้ที่ 1.1% ขณะที่ Core PPI เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2% มากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 1.9%

     (+/-) FTSE Rebalance มีผลบังคับโดยใช้ราคาปิด ณ วันที่ 15 มี.ค. (วันนี้): Large Cap ไม่มีหุ้นเข้าใหม่ แต่มีหุ้นถูกปรับออก 4 หลักทรัพย์ (ลดลงชั้นไปเป็นกลุ่ม Mid Cap) คือ CPF HMPRO IVL SCGP ทำให้รอบนี้หุ้นในกลุ่ม Mid Cap ไม่มีหุ้นที่ปรับออกและสุดท้ายกลุ่ม Small Cap ไม่มีหุ้นเข้าใหม่แต่มีหุ้นถูกปรับออก 5 หลักทรัพย์ คือ KEX RABBIT RAM SAMART WORK

     (+) สัปดาห์หน้าคือสัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกโฟกัสหลัก อยู่ที่ FED Meeting : ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BoJ) , อังกฤษ (BoE) และ สหรัฐ (FED) จะจัดประชุมในสัปดาห์หน้า นักลงทุนส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ FED Meeting ในช่วง วันที่ 20-21 มี.ค.นี้ แม้ตลาดจะเชื่อมั่นเกิน 90% FED คงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% แต่รอบนี้จะมี FED Dot plot ทำให้เห็นสัญญาณและช่วงเวลาที่ FED จะปรับลด ดอกเบี้ย อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ถัดไป

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.