“พ.ต.อ.ประเวศน์” เผย ประธานกสทช.พร้อมชี้แจงศาลปกครองกรณีสรรหาเลขาฯ
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ทำหน้าที่โฆษกด้านกฎหมาย กล่าวว่า การประชุมวาระพิเศษ เพื่อยื่นคำให้การกรณี นางสุรางคณา วายุภาพ ยื่นฟ้องประธานกสทช.และคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. ต่อศาลปกครอง กรณีการสรรหาเลขาธิการกสทช.ซึ่งกสทช.ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลปกครองที่จะครบกำหนดภายในวันที่ 17 มี.ค. 2567 โดยนางสุรางคณา ฟ้องประธานกสทช.เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ บอร์ดกสทช. 7 คน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 หลังจากที่มีการเลื่อนคำให้การมาแล้ว 2 ครั้ง
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการสรุปคำชี้แจงยืนยันว่ากระบวนการสรรหาเลขาธิการกสทช.เป็นอำนาจของประธานกสทช.ตามมาตรา 61 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุและกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) นอกจากนี้จะมีการนำผลการพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ตัดสินยกฟ้องประธานกสทช.กรณีนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการกสทช.ฟ้องประธานกสทช.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีประธานกสทช.ไม่แต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ เป็นรักษาการเลขาธิการกสทช.แทนนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ในกรณีถูกสอบคดีบอลโลก โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งในคำตัดสินระบุว่า มาตรา 61 พ.ร.บ.กสทช.บัญญัติให้ประธานกสทช.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกสทช.เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการกสทช.
อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประธานโดยตรง ขณะที่บอร์ดคนอื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเพราะกระบวนการสรรหาอยู่ที่ประธานกสทช.ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันกับเนื้อหาที่จะชี้แจ้งต่อศาล
สำหรับกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช.ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการต่อ เนื่องจากที่ประชุมบอร์ดกสทช.ยังไม่ได้รับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2567 ที่มีมติไม่เห็นชอบกระบวนการสรรหาเลขาธิการของประธาน กสทช. โดยมติที่กรรมการลงในการประชุมไม่ตรงกับมติที่ประธานธานให้ลงมติ ทำให้มีปัญหาที่ต้องแก้ไขและสรุปมติอีกครั้ง โดยคาดว่าจะนำเข้าพิจารณาต่อไปในการประชุมในวันที่ 20 มี.ค.2567
แหล่งข่าวจากกสทช.กล่าวว่า ในคำให้การที่ต้องเสนอต่อศาลมีการปรับแก้เนื้อหาอยู่ 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การตัดข้อความที่ระบุว่า ปัจจุบันนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการเลขาธิการกสทช. ซึ่งเสียงที่ประชุมส่วนใหญ่ เห็นว่า เป็นข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องครั้งนี้ เพราะเป็นการฟ้องเรื่องกระบวนการสรรหาเลขาธิการกสทช.
2.เนื้อหาที่ระบุว่า กรรมการเสียงข้างมากทั้ง 4 คน คือ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,นางสาวพิรงรอง รามสูต ,นายศุภัช ศุภชลาศัย และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ มีส่วนร่วมในการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งความหมายของคำสั่งทางปกครอง หมายความว่าเป็นมติบอร์ด จึงขอให้เติมข้อความให้ชัดเจน ว่า เป็นคำสั่ง ลงชื่อ โดยประธานเพียงคนเดียว เพราะการสรรหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับบอร์ดกสทช.
3.ให้ตัดเนื้อหาที่ระบุว่า มีส่วนร่วมในการสรรหา และมีส่วนร่วมในการสัมภาษณ์ ออก เนื่องจากบอร์ดมีส่วนร่วมเพียงการรับฟังวิสัยทัศน์ เพื่อทราบข้อมูลในการหารือหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกร่วมกัน แต่เมื่อเข้าประชุมแล้วกรรมการกลับมีหน้าที่เพียงรับฟังวิสัยทัศน์ และไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกแต่อย่างใด
4.การตัดรายงานการประชุมเรื่องการลงมติสรรหาเลขาธิการกสทช.ออก เนื่องจากในการประชุมเพื่อลงความเห็น ยังไม่มีการสรุปรายงานการประชุม เนื่องจากการลงมติการประชุม กรรมการเสียงข้างมากลงมติ ไม่เห็นชอบ กระบวนการสรรหา ขณะที่กรรมการเสียงข้างน้อย ลงมติเห็นชอบนายไตรรัตน์ เป็นเลขาธิการกสทช. ดังนั้นจึงขอแยกเรื่องนี้ให้มีการสรุปเป็นมติที่ประชุมให้เรียบร้อยก่อนจึงส่งให้ศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเอกสารชี้แจง ยังมีการแนบความเห็นส่วนตัว ของบอร์ดกสทช.ทุกคนด้วย แต่ประธานขอให้นำออกเหลือแต่ความเห็นประธานคนเดียว ดังนั้นที่ประชุมจึงขอให้นำออกทั้งหมด และหากบอร์ดคนไหนต้องการเสนอความเห็นส่วนตัวต่อศาลก็ให้ต่างคนต่างเสนอต่อศาลในภายหลัง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.