ไร้ปัจจัยใหม่! หุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบ 1370-1393 จุด

ติดตาม CPI สหรัฐ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้(11 มี.ค.67) SET Index ลดลง 6 จุด (-0.45%) ปิดที่ระดับ 1,380 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับ ตลาดต่างประเทศ และนักลงทุนขายลดความเสี่ยงเพื่อรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนวันนี้

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(12 มี.ค.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน อีกทั้งนักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ก.พ. ได้แก่ CPI ในวันนี้ 12 มี.ค. และ PPI วันที่ 14 มี.ค.เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยก่อนที่ FED จะประชุมในสัปดาห์หน้า 19-20 มี.ค. นอกจากนี้ Fund flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net sell จะกดดันต่อโมเมนตัมการลงทุนในช่วงนี้จึงแนะนำ Selective buy 

     "กราฟ SET แม้จะอยู่ในช่วงกลับตัว W shape และปิดเหนือเส้น EMA 10 วัน แต่ล่าสุดดัชนีอ่อนตัวลงพร้อม Volume เบาบางและเครื่องมือ RSI กับ MACD ส่งสัญญาณขัดแย้งกันส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวนง่าย ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากหลุด 1,370 จุด ส่วนระยะกลาง-ยาว ถือหุ้นเพื่อขาย 1,400 / 1,420 จุด ยกเว้นหลุด 1,370 จุดให้ลดพอร์ท"

หุ้นแนะนำวันนี้

     WHA (ปิด 4.78 ซื้อ/เป้า 5.40 บาท) มี Sentiment บวกจากข่าว ก.พาณิชย์สหรัฐและคณะผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนจะเดินทางเยือนประเทศไทย 13-14 มี.ค.นี้โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความร่วมมือด้านการผลิตและห่วงโซ่ อุปทานกับทั้งสองประเทศเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ

     BDMS (ปิด 29.25 ซื้อ/เป้า 37 บาท) เข้าสู่ช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม (10 มี.ค.-9 เม.ย.) คาดจำนวนผู้ป่วยจากตะวันออกกลางลดลงในช่วงดังกล่าว แนะนำ Switch ออกจาก BH ซึ่งมีสัดส่วนผู้ป่วยจากตะวันออกกลางสูง (30%) ไป BDMS ที่มีสัดส่วนผู้ป่วยจากตะวันออกกลางน้อย (5%)

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+) ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์คุม Short Selling และ Program Trading คาดเริ่มใช้ 3Q24: ก.ล.ต. เห็นชอบมาตรการตามที่ ตลท. เสนอ อาทิ หุ้นที่จะทำ Short Selling ได้จะต้องมี Market cap ขั้นต่ำตั้งแต่ 7,500 ล้านบาท มี Turn over มากกว่า 2%ต่อเดือน ใช้เกณฑ์ Uptick Rule เมื่อราคาหุ้นลดลงตั้งแต่ 10% ขึ้นไปของราคาปิดวันก่อนหน้า โดยมาตรการต่างๆ เปิดรับฟังความคิดเห็นได้ในช่วง
2Q24 และ มีผลบังคับใช้ 3Q24

     (+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.พ. ของสหรัฐเพื่อหา สัญญาณบ่งชี้เฟดลดอกเบี้ย: สหรัฐจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.พ. ในคืนวันนี้ เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทรงตัวที่ระดับ 3.1% ตามเดิมแต่คาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะลดลงสู่ระดับ 3.7% จาก 3.9% ในเดือน ม.ค. (หากตัวเลขลดลงมากกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาด)

     (+) นิคมฯ - ก.พาณิชย์สหรัฐและคณะผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนจะ เดินทางเยือนประเทศไทย 13-14 มี.ค.นี้: ก.พาณิชย์สหรัฐแถลง นางจีนา ไรมอนโด รมว. พาณิชย์ ของสหรัฐจะนำคณะสภาส่งออกของประธานาธิบดี (PEC) เดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 13-14 มี.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการผลิต และห่วงโซ่อุปทานกับทั้งสองประเทศซึ่งตลาดมีความหวังบวกเนื่องจากคณะดังกล่าวได้เดินทางเยือนฟิลิปปินส์ (11-12 มี.ค.) และประกาศเงินลงทุนกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท

 

รอตัวเลขเงินเฟ้อ US

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้แกว่ง ผสมผสานโดย Dow Jones +0.12% ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิด -0.11% และ -0.41% ตามลำดับ ก่อนการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ในคืนนี้

     โดยตลาดคาดการณ์ ตัวเลข US CPI คืนนี้ทรงตัวที่ระดับ +3.1%y-y และ ดัชนี US Core CPI คาดชะลอตัวลงสู่ระดับ +3.7%y-y จากเดือนมกราคมที่ +3.9%y-y ซึ่งหากทั้งสองตัวเลขมีทิศทางที่ใกล้เคียงหรือชะลอตัวลงมากกว่าคาดจะเป็นปัจจัยที่ช่วยบ่งชี้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในกลางปีนี้มากยิ่งขึ้น และจะเป็นผลดีกับตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเช่นกัน

     ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามพัฒนาการของภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งเริ่มมีความหวังมากขึ้น ทั้ง ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึง 3 มีนาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วกว่า 6.7 ล้านคน (+49%y-y) ผสานกับการปลดล็อคฟรีวีซ่าไทย -จีน รวมถึงแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้นคาดจะเป็น Upside ต่อภาคท่องเที่ยวไทย นอกจากนี้ความคาดหวังเชิงบวกต่อการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐที่น่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี67จากการผ่านการพิจารณางบรายจ่ายประจำปีในช่วงปลายมีนาคม-ต้นเมษายน คาดจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มแรงเก็งกำไรต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

     "คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1375-1390 จุด เกาะติดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะรายงานคืนนี้ ซึ่งมีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯในช่วงถัดไป ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางฟื้นตัวเป็นบวกต่อ SET ในระยะกลาง ดังนั้นกลยุทธ์ยังคงแนะสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

     โดยวันนี้แนะนำ “CK” ราคาเป้าหมาย 27 บาท คาดกำไรปี 2024 เติบโตเด่นจากธุรกิจรับเหมาที่เริ่มฟื้นตัว ผสานการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM CKP ที่สูงขึ้น อีกทั้งการพิจารณา พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2024 ที่คาดในช่วงปลาย มีนาคม-เมษายน จะเป็นปัจจัยช่วยเร่งการเบิกจ่ายและหนุนงานประมูลภาครัฐมากยิ่งขึ้น"

 

ซื้อเมื่ออ่อนตัว

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้ “พักย่อระยะสั้นตามแนวรับ 1,376 / 1,370  โดยมีแนวต้าน 1,387 / 1,393” ทั้งนี้แท่งเทียนมีภาพของการสวิงตัวในกรอบจำกัดและปรับตัวขึ้นไม่ผ่าน EMA 50 วัน โดยมีลักษณะของ BEARISH HARAMIN แต่ยังสามารถปิดเหนือ EMA 10 วัน 

     ท่ามกลางเครื่องมือทางด้านเทคนิคส่วนใหญ่ที่ยังมีสัญญาณบวกลบคละกัน อาทิ RSI ที่พลิกกลับมาต่ำกว่าแกน 50 % และ MACD ที่ยังต่ำกว่าแกน 0 แต่ MODIFIED STOCHASTIC ที่มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น แต่ VOLUME ยังไม่เร่งตัวขึ้นมากนักและต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 วัน จึงให้น้ำหนัก SET เกิดการพักย่อระยะสั้น 1,376 / 1,370 จุด หลังจากนั้นจึงลุ้นดีดตัวขึ้นอีกครั้งตามแนวต้าน 1,378 / 1,393 จุด

     ส่วน SET50 มีโอกาสพักย่อตามแนวรับ 837 / 832 จุด ได้เช่นเดียวกัน ส่วนแนวต้านวางไว้ที่ 848 / 853 จุด

     คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ยังอยู่ในด้านซื้อเมื่ออ่อนตัวเป็นหลัก พร้อมกับแนะนำซื้อเก็งกำไร GFPT เป้าหมาย 12.70 / 13.10 บาท แนวรับ 11.90 / 11.60 บาท

     STEC เป้าหมาย 11.00 / 11.40 บาท แนวรับ 10.20 / 9.80 บาท

     TIPCO เป้าหมาย 10.30 - 10.50 บาท แนวรับ 9.80 / 9.65 บาท

     JPARK เป้าหมาย 7.45 / 7.60 บาท แนวรับ 6.70 / 6.50 บาท

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.