หวังใจ 'หุ้นไทย' ฟื้นตามตลาดรอบบ้าน เคาะกรอบ 1380-1395 จุด

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้(14 ก.พ.67) SET Index ลดลง 7 จุด (-0.48%) ปิดที่ระดับ 1,385 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับ ตลาดหุ้นต่างประเทศ กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนานหลังเงินเฟ้อลดลงน้อยกว่าที่คาด หุ้น Sensitive กับดอกเบี้ยปรับลงกดดัชนีนำลงโดย กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(15 ก.พ.67)ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,380 - 1,395 จุด โดยภาวะตลาดได้ sentiment บวกจากตลาดหุ้นรอบบ้านที่ฟื้นตัวขึ้นหลัง US bond yield อ่อนตัวลง อีกทั้งแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวช่วยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง รวมถึงความกังวล FED จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อจะกดดันต่อทิศทาง Fund flow และภาวะตลาดให้ผันผวน

     "กราฟ SET แม้จะยังอยู่ในช่วงกลับตัว W shape แต่ล่าสุดดัชนีทรุดตัวลงปิดที่แนวเส้น EMA 10 วัน พร้อมเครื่องมือ MACD กับ RSI ส่งสัญญาณขัดแย้งกันซึ่งทำให้ภาวะตลาดผันผวนได้ง่าย ดังนั้นประเมินว่า SET จะพักตัวกรอบ 1,380 - 1,395 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากดัชนีหลุด 1,375 จุด"

หุ้นแนะนำวันนี้

     BEM (ปิด 7.60 ซื้อ/เป้า 10.50 บาท) เรามีมุมมองบวกจากข่าว กทพ. เตรียม เจรจา BEM ให้เป็นผู้ลงทุนโครงการทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck) มูลค่า 3.5 หมื่น ล้านบาทแลกกับการขยายเวลาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่จะสิ้นสุดปี 2578 ออกไป คาดขยายสัญญา 15 ปี จะเพิ่มมูลค่าต่อ BEM 1.50 บาท

     CPAXT (ปิด 30 ซื้อเก็งกำไร/เป้า IAA Consensus 35 บาท) มีกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 3,282 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 96%qoq และ 33%yoy มากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ 7% และหากคิดเป็นกำไรจากการดำเนินงาน มากกว่าที่ Consensus และเราคาดไว้ 12%

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+/-) หุ้นสหรัฐฟื้นตัว แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังสต๊อกน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นเกินคาด : ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาฟื้นตัว (ดาวโจนส์ +0.40% , S&P500 +0.96% , Nasdaq +1.30%) แม้เงินเฟ้อลดลงช้า ดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงแต่ตลาดให้น้ำหนักกับภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและโอกาสเกิด Recession ลดลงมากกว่า ,

     ส่วนตลาดน้ำมันราคาน้ำมัน WTI ลดลง 1.23$ xbfmuj 76.64$/bbl หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.56 ล้านบาร์เรล 

     (+) TOP แจ้งกำไรสุทธิ 4Q23 ลดลง 75%qoq แต่เพิ่มขึ้น 1,905%yoy และ In line กับที่ Consensus คาดไว้ : TOP มีกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 2,944 ล้านบาท ลดลง 75%qoq แต่เพิ่มขึ้น 1,905%yoy กำไรที่ลดลง qoq เป็นผลจากมี Stock loss 3.3 พันล้านบาทเทียบกับ 3Q23 มี Stock gain 7.9 พันล้านบาท, TOP ประกาศจ่ายปันผล 2H24 ที่ 2.75 บาท XD 27 ก.พ. และจ่ายปันผล 30 เม.ย. ให้ Dividend yield ประมาณ 4.9%

     (+) CPAXT แจ้งกำไรสุทธิ 4Q23 มากกว่าที่เราและตลาดคาด โดยมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 96%qoq และ 33%yoy : CPAXT มีกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 3,282 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 96%qoq และ 33%yoy มากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ 7% และหากคิดเป็นกำไรจากการดำเนินงานมากกว่าที่ Consensus คาด 12% มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตาม SSSG หลังมีความต้องการสูงขึ้นใน กลุ่มลูกค้าที่เป็นภัตาคาร และโรงแรม และบริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี