"LH"สู้ศึกกำลังซื้อหด-แบงก์คุมเข้ม ลุยเปิด11โครงการ-ซื้อโรงแรมเสริมทัพ
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นี้ยังคงเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ, หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง, ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารต่างๆ และสินค้าในตลาดมีจำนวนมากแต่ความต้องการซื้อค่อนข้างจำกัด
แม้ที่ผ่านมาจะเห็นว่าภาครัฐพยายามเร่งดำเนินการหลายโปรเจค ทั้ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ การดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เป็นต้น ถือเป็นความคาดหวัง อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยในอเมริกาคาดว่าจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นและจะเริ่มขยับลงในไตรมาส 2/67 หรือช้าสุดอาจะเห็นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนดอกเบี้ยในไทยคาดว่าจะขยับลงช้ากว่าอเมิรกา ซึ่งก็ต้องติดตามความชัดเจนอีกครั้ง
"สิ่งที่กังวล คือ หนี้ครัวเรือนและความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ ที่เราได้แต่หวังว่าจะดีขึ้นจากการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น บวกคาดหวังยอดนักท่องเที่ยวที่น่าจะเข้ามาเพิ่มขึ้น ยอดจองห้องพักน่าจะเริ่มดีขึ้นเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งในเวลาแบบนี้การดูเศรษฐกิจมหภาคเป็นการดูเพื่อตัดสินใจในภาพกว้าง
แต่สิ่งที่ต้องกลับมาดูคือ องค์กรและภาพในประเทศ จะเห็นว่าในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมาเราเริ่มปรับโครงสร้างองค์กรมากขึ้น มีการก่อสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้น มีห้างสรรพสินค้า และลงทุนโรงแรมที่อเมริกาที่คาดว่าน่าจะเหมาะสม อย่างที่ทราบ LH มีรายได้ 3 ทาง คือ 1.อสังหา 2.ให้เช่าโรงโแรมและห้างสรรพสินค้า 3.การลงทุนที่จะรีเทิร์นในระยะกลางยาวให้เหมาะสม เราพยายามบริหารพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้น"
เปิดตัวบ้านเดี่ยว-เร่งขายคอนโดในมือ
สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 30,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมดและมี 1 โครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมอยู่ภายในโครงการเดียวกัน ราคาเฉลี่ยต่อหน่อยราว 9.4 ล้านบาท
ซึ่งในปีนี้ไม่มีแผนเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ เนื่องจากปัจจุบันมีคอนโดฯในมือพร้อมขาย 7 โครงการ มูลค่รวม 16,000 ล้านบาท เป็นคอนโดพร้อมโอน มูลค่า 6,000 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายคอนโดปีนี้ที่ 5,500 ล้านบาทและยอดโอนกรรมสิทธิ์ 2,000 ล้านบาท จากทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเริ่มลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับขยายเวลาการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองออกไปอีก 1 ปี ส่งผลดีต่อตลาดคอนโดฯในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแบรนด์ The Key ที่มีราคาอยู่ในระดับดังกล่าวคาดหวังว่าจะได้รับอานิสงส์เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุน 11,500 ล้านบาท รองรับการซื้อที่ดิน 5,000 ล้านบาท, ก่อสร้างโรงแรมในไทย 4,000 ล้านบาท และ ซื้อโรงแรมในอเมริกาอีก 2,500 ล้านบาท เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจาคาดชัดเจนเร็วๆนี้ อีกทั้งมีแผนขายศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 พัทยา มูลค่า 5,000 ล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (LHSC)
"ปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย (Bookings) วงเงิน 31,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปีที่ผ่านมามียอดขาย 30,000 ล้านบาท และวางเป้ารายได้รวม 36,540 ล้านบาท เป็นรายได้การโอนกรรมสิทธิ์ 28,000 ล้านบาท และรายได้อสังหาให้เช่า 8,540 ล้านบาท บวกยอดขายรอโอนในมือ ราว 5,000 ล้านบาท"
เตรียมออกหุ้นกู้ 1.6 หมื่นลบ.
นายวิทย์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) กล่าวว่า แผนระดมทุนปีนี้ บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดอายุราว 80-90% ถือว่าปกติ โดยคาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)หลังจากที่ออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงที่ระดับ 1 เท่า ถือว่าลดลงจากสิ้นปี 66 อยู่ที่ 1.12 เท่า
ส่วนสถานการณ์หุ้นกู้ปีนี้มองว่าไม่ได้น่ากลัวหรือน่ากังวลมากนัก เพียงแต่ความกังวลของนักลงทุนอาจทำให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุนลดน้อยลง ดังนั้นบริษัทจึงมีหลายทางเลือกให้แก่นักลงทุน อาทิ หุ้นกู้อายุ 2 ปี หรือ 2 ปี 6 เดือน และ 3 ปี จากปกติจะออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทเพิ่มช่องทางการระดมทุน โดยเตรียมนำโครงการที่จะพัฒนาในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าเป็นหลักประกันขอวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มอีกราว 5,000-6,000 ล้านบาท หรือออกตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) เป็นต้น
"นักลงทุนควรเลือกหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งระดับ A ขึ้นไป และทำธุรกิจที่เป็นดาวรุ่ง ขาขึ้น ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง แต่อาจต้องแลกด้วยดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ ที่สำคัญสิ่งที่ต้องดูคือ D/E ต้องไม่เกิน 1.5 เท่าเพราะถ้าสูงกว่านี้ก็ถือว่าเสี่ยง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจที่ทำเพราะธุรกิจบางประเภท D/E ค่อนข้างสูงอาจต้องพิจารณาให้รอบด้าน"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.