'สยามราช'ขู่ร้องป.ป.ช.ฟันกรรมการสรรหาCEOปตท.คนใหม่

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นายสยามราช ผ่องสกุล ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียของปตท. เปิดเผยว่า การสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) คนใหม่มีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น มีความพยายามช่วยเหลือ และปกปิดการกระทำความผิดผู้สมัครบางรายที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งมีรายงานสรุปผลการกระทำความผิดที่ชัดเจน ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ได้ทำหนังสือถึง คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าปตท. และกรรมการปตท.ทุกคน ขอให้ตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติความเหมาะสมของผู้สมัครรายหนึ่งและเข้ารับการสรรหาในตำแหน่งดังกล่าวว่ามีการกระทำความผิดหรือการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ 

นายสยามราช ระบุด้วยว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)คนใหม่ มีคดีถูกกล่าวหาอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษขณะดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารในบริษัทแห่งหนึ่งร่วมกันทุจริต หรือร่วมกันฉ้อโกงบริษัท เข้าข่ายฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18) เป็นคดีที่ไม่มีอายุความ และมีโทษทางอาญาและร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 

นอกจากนี้ระหว่างปี พ.ศ. 2561 – 2563ได้มีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันโดยกลุ่มผู้ค้ารายเดียวกันปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เป็นที่ตั้ง เพื่อความโปร่งใส และยึดหลักธรรมาภิบาล  การสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) จะต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย หรือมลทิลมัวหมอง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต 

นายสยามราช ระบุด้วยว่าได้ทราบข่าวภายในมาว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่ตรวจสอบประวัติของบุคคลดังกล่าว ดังนั้น หากคณะกรรมการสรรหาผู้ว่า ปตท. และหรือ กรรมการ บริษัท ปตท. ไม่มีหนังสือถึง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อสอบถามรายละเอียดแห่งคดี ถือว่า เป็นการช่วยเหลือและปกปิดการกระทำความผิด อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายและเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นที่กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษในคดีอาญา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200 และพร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษคณะกรรมการสรรหาฯต่อสำนักงานป.ป.ช.เป็นรายบุคคลต่อไป