กลุ่มผู้สูงอายุมาแรง ดันโอกาสธุรกิจ 3 กลุ่ม ฉายแววโต
ข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ เดือนพ.ย. 2566 ระบุว่า ประชากรผู้สูงอายุในไทย (อายุ 60 ปีขึ้นไป) คิดเป็น 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือประมาณ 13 ล้านคน จากประชากรไทยทั้งประเทศ จำนวน 66,057,967 คน ส่งผลให้ในปี 2567 เป็นปีที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สูงอายุในประเทศไทยเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ มีอำนาจทางการเงิน และมีอิทธิพลต่อคนในครอบครัว จึงเป็นโอกาสของธุรกิจไทยในการนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของประชากรกลุ่มนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและสุขภาพ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุทุกคน เบื้องต้น
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ความต้องการของผู้สูงอายุที่น่าสนใจออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ 1. ความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ประกอบด้วยปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค เพื่อเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
2. ความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะความมั่นคงและปลอดภัยทางการเงิน เพื่อสร้างหลักประกันที่จะสามารถเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเหตุฉุกเฉินต่างๆ
3. ความต้องการสุขภาพกายและใจที่ดี โดยเฉพาะการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่จำเป็น การทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีผลต่อความแข็งแรงและเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
ทั้งนี้ จำนวนจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของสังคมผู้สูงอายุในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564 - 2566) มีแนวโน้มการจัดตั้งเพิ่มขึ้น โดยในปี 2564 จัดตั้ง 10,676 ราย ทุน 38,431 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 13,915 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 3,239 ราย หรือ 30.33%) ทุน 50,153 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 11,722 ล้านบาท หรือ 30.50%) ปี 2566 จัดตั้ง 16,913 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 2,998 ราย หรือ 21.55%) ทุน 53,276 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 3,123 ล้านบาท หรือ 6.22%)
ส่วนจำนวนการจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงและความปลอดภัยของกลุ่มผู้สูงอายุช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา (2564 - 2566) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2564 จัดตั้ง 241 ราย ทุน 746 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 274 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 33 ราย หรือ 13.69%) ทุน 811 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 65 ล้านบาท หรือ 8.71%) ปี 2566 จัดตั้ง 309 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 35 ราย หรือ 12.77%) ทุน 6,633 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 5,822 ล้านบาท หรือ 717.87%)
ขณะที่จำนวนการจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพกายและใจของกลุ่มผู้สูงอายุในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564 - 2566) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2564 จัดตั้ง 2,318 ราย ทุน 6,604 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 3,338 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,020 ราย หรือ 44.00%) ทุน 6,510 ล้านบาท (ลดลงจากปี 2564 จำนวน 94 ล้านบาท หรือ 1.42%) ปี 2566 จัดตั้ง 4,588 ราย (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 1,250 ราย หรือ 37.45%) ทุน 9,665 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 3,155 ล้านบาท หรือ 48.46%)
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุมีแนวโน้มสูงขึ้นและเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองและน่าสนใจ โดยการจัดลำดับล่าสุด ธุรกิจที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามองในปี 2566 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เช่น ‘ธุรกิจสถานที่ดูแลรักษาสำหรับผู้สูงอายุ’ ‘ธุรกิจบริการจัดหาที่พักให้’ ‘ธุรกิจสังคมสงเคราะห์โดยไม่มีที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ’ ฯลฯ ติดอันดับธุรกิจที่โดดเด่นในปี 2567 เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นต้องการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.