ThaiBMA เล็งออกแนวทางปกป้องผลประโยชน์นักลงทุนหุ้นกู้ในปี 67
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ในปี 2567 คาดการณ์ยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว 0.9-1 ล้านล้านบาท เป็นหุ้นกู้ออกใหม่ 4-4.5 แสนล้านบาท และเป็นหุ้นกู้ Rollover 5-5.5 แสนล้านบาท
ส่วนหุ้นกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดในปี 2567 อยู่ที่ 89,908 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ Investment grade มูลค่า 791,332 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% และหุ้นกู้ High Yield หรือกลุ่มที่มีเรตติ้งต่ำกว่า BBB- ลงไปถึงไม่มีเรตติ้ง มูลค่า 99,586 ล้านบาท คิดเป็น 10%
“อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงผิดนัดชำระที่ต้องจับตามองในปีนี้ คนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มอสังหาฯ เพราะมีการออกหุ้นกู้เยอะ และอายุหุ้นกู้ประมาณ 2-3 ปี แต่จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาหุ้นกู้ผิดนัดชำระมีหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ JKN และ STARK ก็ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ดังนั้นไม่อยากให้เล็งไปที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง และไม่สามารถตอบได้ว่าอุตสาหกรรมใดน่าห่วงที่สุด” นางสาวอริยา กล่าว
ขณะที่ในปี 2566 ยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว มีมูลค่า 1,018,690 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่ออกส่วนใหญ่ มูลค่า 926,713 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91% อยู่ในกลุ่ม Investment grade ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นกู้ High Yield มูลค่า 91,977 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และ ธนาคาร ตามลำดับ
สำหรับหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระในปี 2566 มูลค่ารวม 16,363 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าคงค้างหุ้นกู้ที่มีปัญหา ณ สิ้นปี 2566 รวม 39,412 ล้านบาท ได้แก่ หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ (Default Payment) จำนวน 7 บริษัท (ACAP, ALL, APEX, DR, IFEC, JKN, และ STARK) มูลค่ารวม 22,295 ล้านบาท
หุ้นกู้บริษัทที่ปรับโครงสร้างหนี้ (Restructure) จำนวน 13 บริษัท มูลค่ารวม 10,975 ล้านบาท, หุ้นกู้ที่ล้มละลาย (Bankruptcy) จำนวน 1 บริษัท (EARTH) มูลค่า 5,750 ล้านบาท, หุ้นกู้ที่ไม่จ่ายหนี้เมื่อครบกำหนด (Failed to Pay) จำนวน 1 บริษัท (PPH) มูลค่า 392 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่เข้าฟื้นฟูกิจการ (Rehabilitation) จำนวน 3 บริษัท (THAI, PACE, RICH) มูลค่ารวม 73,057 ล้านบาท
“หุ้นกู้ของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ยังไม่เป็นหุ้นกู้ผิดนัดชำระ แต่มีการนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอผ่อนผันการดำรง D/E ratio และขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี และปรับเพิ่มดอกเบี้ยจ่าย ถือว่ามีความพยายามในการบริหารจัดการที่ดี” นางสาวอริยา กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2566 มูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทยอยู่ที่ 16.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ โดยหุ้นกู้ระยะยาวมีมูลค่าคงค้างรวม 4.5 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน แนวทางการดำเนินงานของ ThaiBMA ในปี 2567 ได้แก่ เพิ่มการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของผู้ออกหุ้นกู้ และการเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจลงทุน และจัดทำ High yield bond covenant (ข้อกำหนดทางการเงินที่ผู้ออกหุ้นกู้ต้องปฏิบัติ) ที่ครอบคลุมเงื่อนไขสำคัญ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน
รวมทั้งจัดทำสัญญามาตรฐานของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเพิ่มหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้/นายทะเบียน ที่มีต่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในการทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของนักลงทุนให้มีประสิทธิภาพ
“ได้มีการหารือกับสำหนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อจัดตั้งคณะทำงานต่อไป และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2567” นางสาวอริยา กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.