ราคาทองสัปดาห์นี้ติดเพดาน2,078 ดอลลาร์จับตาเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์ทิศทางราคาทองสัปดาห์นี้ จากปัจจัยแท่งเทียนเมื่อวันศุกร์มีรูปแบบ Long-legged Doji ราคาปิดใกล้เคียงกับราคาเปิด ซึ่งราคาทองคำเกิดแรงขายอย่างรวดเร็ว ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ MACD ยังเห็นแรงส่ง (Momentum) น้อยลงเรื่อยๆ ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงระยะสั้น แต่คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน
ส่วนสัปดาห์นี้แนะนำให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั้งฝั่งสหรัฐและจีน ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และการเลือกตั้งในไต้หวัน สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,030 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,060 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,078 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 33,400 บาท และ 33,200 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 33,800 บาท และ 33,900 บาท
สำหรับปัจจัยกระตุ้นตลาดทองได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้นในปีนี้ ขณะที่ปัจจัยฉุดคือความต้องการทองคำจากจีนลดลง จากเศรษฐกิจจีนที่คาดเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงในปีนี้
การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ส่อแววเพิ่มความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในสัปดาห์แรกของปีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยสูงยาวนาน หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด การแถลงของประธานเฟดสาขาริชมอนด์ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลง และการจ้างงานสหรัฐสูงกว่าตลาดคาด ขณะที่สัปดาห์นี้มีประเด็นที่สำคัญที่น่าติดตาม คือการเลือกตั้งของไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน มีตัวแทนพรรคการเมือง 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือฝั่งของรัฐบาลเดิม ที่จะเสนอรองประธานาธิบดีไล ชิงเต๋อ คนปัจจุบัน จากพรรค DPP กับ โหวโหยวอี้ นายกเทศมนตรีไทเป แห่งพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) รวมถึงเคอเหวินเจ๋อ อดีตนายกเทศมนตรีกรุงไทเป จากพรรค TPP
โดย ณ ขณะนี้ โพลล่าสุดให้รองประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ จากพรรค DPP มีคะแนนความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง บ่งชี้ความเสี่ยงต่อนโยบายแยกประเทศออกจากจีนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากรองประธานาธิบดีไล ชิงเต๋อ จากพรรค DPP มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะมุ่งสนับสนุนให้ไต้หวันพัฒนาไปสู่การเป็นสังคมประชาธิปไตย หรือสรุปได้ง่าย ๆ ว่า มีนโยบายแยกประเทศออกจากจีนอย่างเด็ดขาด และจะมีความใกล้ชิดกับสหรัฐมากขึ้น เนื่องจากมีความเห็นว่าไต้หวันพึ่งพาแผ่นดินใหญ่มากเกินไป และควรสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับมหาอำนาจประเทศอื่น ๆ โดยตลอดภายใต้ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของพรรค DPP ไต้หวันได้กระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้สหรัฐได้อนุมัติแพ็กเกจเงินช่วยเหลือทางทหารภายใต้ “โครงการจัดหางบประมาณทางทหารแก่ต่างประเทศ” (Foreign Military Financing : FMF) มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2800 ล้านบาท ผ่านโครงการ FMF เป็นครั้งแรก โครงการนี้ที่ทราบกันดีว่าเป็นโครงการที่สหรัฐจะให้กับประเทศที่สหรัฐรับรองการเป็นเอกราชมีอธิปไตย อีกทั้งประสบวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดในช่องแคบไต้หวันในรอบหลายปีเมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร แนนซี เพโลซีเยือนไต้หวันในช่วงเดือนส.ค.2565 ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพรรค DPP มีความชัดเจนที่ไม่เห็นด้วยในการที่ให้ไต้หวันรวมกับจีน ขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) พรรคนี้มีนโยบายที่จะคงสถานะที่เป็นอยู่และสนับสนุนการรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ใกล้ชิดกับจีน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนในไต้หวันมากกว่า 80% ต่อต้านการรวมประเทศกับจีน แต่ในเวลาเดียวกันไม่มีฝ่ายใดสนับสนุนให้ประกาศเอกราชโดยสมบูรณ์ เนื่องจากการยั่วยุมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการทำสงคราม ซึ่งต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน หากพรรค DPP ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ การดำเนินนโยบายต่างๆ ก็จะคล้ายกับรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันไม่ต้องการให้ไตหวันที่จะรวมกับจีน ซึ่งอาจหนุนความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ได้ จึงนำไปสู่สงครามในวันใดวันหนึ่ง
เนื่องจากฝั่งจีนก็มีความต้องการให้ไต้หวันรวมกับจีน ทั้งนี้เคยมีการคาดการณ์ว่า จีนจะบุกไตหวันอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าจีนอาจจะบุกไตหวันอย่างเร็วที่สุดในปี ค.ศ. 2025 การคาดการณ์มาจากหน่วยงานข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐ ทั้งนี้เมื่อใดที่เกิดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่อแววทวีความรุนแรงมากขึ้น มักจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 8 – 12 ม.ค. 2567 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่ามี 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 313 ราย ในจำนวนนี้มี 147 ราย หรือเทียบเป็น 47% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 105 ราย หรือเทียบเป็น 34% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 61 ราย หรือเทียบเป็น 19% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 33,400 – 33,650 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 33,650 บาท ต่อบาททองคำ ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 33,650 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากมีรายงานว่า นายซาเลห์ อัลอารูรี ผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสได้ถูกสังหารจากเหตุระเบิดในเมืองเบรุตของเลบานอน โดยเลบานอน กล่าวโทษว่าเป็นการกระทำของอิสราเอล ทางด้านอิหร่านส่งเรือรบอัลบอร์ซเข้าสู่ทะเลแดง หลังจากที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ทำลายเรือ 3 ลำของกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุน
2. การเลือกตั้งประธานาธิบดี และสมาชิกรัฐสภาในไต้หวัน ในวันที่ 13 มกราคม 2567 ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) หรือ พรรครัฐบาลปัจจุบันที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวันชนะการเลือกตั้ง อาจทำให้ความตึงเครียดระหว่างไต้หวัน, จีน และสหรัฐฯ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เมื่อเดือน ธันวาคม 2566 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.