มองสัปดาห์หน้าหุ้นไทยยืนเหนือ1,400เงินบาทแตะ34.20-34.90บาท/ดอลลาร์
สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
เงินบาทพลิกกลับมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 34.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ กลับมาทยอยฟื้นตัวขึ้น จากที่เผชิญแรงเทขายมากในสัปดาห์ทำการสุดท้ายของปี 2566 ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังได้รับแรงหนุน หลังบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด สะท้อนว่า สัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็ว และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้เฟดมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องกลับมาสู่ระดับเป้าหมาย
ในวันศุกร์ที่ 5 ม.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.72 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.14 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (28 ธ.ค. 2566) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 2-5 ม.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,088 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 12,537 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 13,038 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 501 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (8-12 ม.ค. 67) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.20-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. ของจีน และผลการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีหุ้นไทยยังยืนเหนือ 1,400 จุดได้ในสัปดาห์แรกของปี 2567 ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงในวันทำการแรกของปีขานรับปัจจัยบวกจากมาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีนเป็นการถาวร ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยาน
อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมควร ประกอบกับบันทึกการประชุมเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยเมื่อใด อนึ่งหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งหนึ่งของสหรัฐฯ
ในวันศุกร์ที่ 5 ม.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,427.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.86% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,832.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.09% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.92% มาปิดที่ระดับ 419.50 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (8-12 ม.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,415 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,440 และ 1,455 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4/66 ของบจ. ไทย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. 66 ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. 66 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. 66 ของยูโรโซน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. 66 ของจีน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.