“ทรีนีตี้” มองกองทุน TESG ดันหุ้น ธ.ค. มีสีสัน ดึงสถาบันลุยซื้อหมื่นล้าน
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนธันวาคม 2566 ว่า สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนธันวาคม คาดว่าจะจะมีสีสันมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งของวอลุ่มการซื้อขาย ที่ประเมินว่าน่าจะมีการขยับสูงขึ้นเฉลี่ยต่อวัน จากการเปิดขายกองทุน TESG เพื่อการลดหย่อนภาษีในประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนทำให้ผู้เล่นฝั่งนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดมากขึ้น
โดยคาดการณ์ว่าเป้าหมายที่ทางการตั้งเอาไว้ว่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุนนี้ราว 10,000 ล้านบาทนั้น มีความเป็นไปได้ อ้างอิงจากสัดส่วนเม็ดเงินของกองทุน LTF ที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในอดีต ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET จะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,360 จุด และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด
ในส่วนของกลุ่มหุ้นที่คาดว่าอาจเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินกองทุน TESG นี้ในช่วงถัดไป มองว่าน่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในดัชนี SETESG และมีอันดับ ESG Rating ในระดับสูงสุด อาทิ PTT, ADVANC, PTTEP, CPALL, SCC, KBANK, KTB, CRC, OR, PTTGC โดยในกลุ่มนี้ยังสามารถแบ่งออกตามจุดประสงค์ของการลงทุนย่อยได้อีก คือ 1.หุ้นปันผลสูงที่มักจะเข้าสู่ช่วง High season ตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ PTT, ADVANC, SCC, KTB และ 2.หุ้นที่มี Earnings momentum เชิงบวกในช่วงถัดไป ได้แก่ CPALL, CRC
ส่วนกลุ่มหุ้นอื่นๆ ที่ยังคงแนะนำถือครองเป็น Core portfolio ได้แก่กลุ่มที่อิงกับการบริโภคภายในเป็นสำคัญ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL, CPAXT, BJC, HMPRO, GLOBAL, DOHOME, CRC, COM7 เป็นต้น โดยคาดว่าในเดือนนี้จะมี Sentiment เชิงบวกที่รออยู่สำคัญ ได้แก่ การอนุมัติโครงการ e-Refund วงเงิน 50,000 บาทต่อราย และการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากที่ประชุม ครม. ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยในช่วงต้นปีหน้าได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.