เงินบาทวันนี้35.10-35.40เปิดเช้าอ่อนลงอยู่35.27บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้ ที่ 35.10-35.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  35.27 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.19 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.14-35.39 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง ตามการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินฝั่งยุโรป (EUR และ GBP) จากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเริ่มลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปล่าสุดชะลอลงมากกว่าคาด

อย่างไรก็ดี เงินบาทก็ยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำอยู่บ้าง หลังราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า บรรดาธนาคารกลางหลักจะทยอยลดดอกเบี้ยลงในปีหน้า ส่งผลให้เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าไปได้ไกล

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท Krungthai GLOBAL MARKETS ประเมินว่า ในช่วงก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญฝั่งสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด (จะเริ่มตั้งแต่ช่วง 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ค่าเงินบาทก็อาจผันผวนไปตามบรรยากาศในฝั่งตลาดการเงินเอเชียและตลาดการเงินไทย

โดยฝั่งตลาดการเงินเอเชียอาจยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนในฝั่งตลาดการเงินไทย เรามองว่า แรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติก็อาจยังพอมีอยู่บ้าง ทำให้โดยรวมเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้ 

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด อีกทั้งในช่วงโซนแนวต้านดังกล่าว จึงคาดว่า บรรดาผู้ส่งออกอาจรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่าลงในการทยอยขายเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเริ่มแผ่วลง จนทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจตัดสินใจทยอยขายทำกำไรเพิ่มเติม 

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด เนื่องจากในช่วงนี้ตลาดอาจอ่อนไหวกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด หรือ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่งสัญญาณ Hawkish หรือ สนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน โดยบรรดาหุ้นกลุ่มเทคฯ ใหญ่ (The Magnificent Seven) อาทิ Nvidia -2.9%, Alphabet -1.8% ต่างปรับตัวลดลงตามแรงขายทำกำไร ขณะที่ หุ้นกลุ่มอื่น ๆ ต่างปรับตัวขึ้นได้ ตามความหวังว่า เฟดจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ล่าสุด ชะลอตัวลงตามคาด ขณะเดียวกัน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ก็ปรับตัวสูงขึ้น แย่กว่าคาด สะท้อนภาพการชะลอตัวลงต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ซึ่งภาพดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.38% ขณะที่ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.23%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.55% หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปชะลอตัวลงกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของหุ้นยุโรปก็ถูกจำกัดลงบ้าง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง

ในฝั่งตลาดบอนด์ แม้ว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด จะยังคงทำให้ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงได้ราว -1.25% ในปีหน้า แต่ทว่า บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ก็มีส่วนช่วยหนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รีบาวด์ขึ้นได้บ้างและแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.31% อย่างไรก็ดี คืนวันศุกร์นี้ อาจเห็นการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ผันผวนได้ เนื่องจากตลาดจะรับรู้ทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ และถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งหากบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เรายังคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวได้ (เน้นกลยุทธ์รอจังหวะ Buy on Dip) 

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาสะท้อนว่า เฟดอาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วและเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้าตามที่ตลาดคาด ทว่า เงินดอลลาร์ก็ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของสกุลเงินยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดว่า ECB และ BOE อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า จากรายงานอัตราเงินเฟ้อฝั่งยุโรปล่าสุดที่ชะลอลงมากกว่าคาด ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 103.5 จุด (กรอบ 103-103.6 จุด)  

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์จะมีจังหวะปรับตัวขึ้นบ้าง และกดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ทว่าราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คาดหวังว่า บรรดาธนาคารกลางหลักอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีหน้า ทำให้ราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ทั้งนี้ จังหวะการรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ ก็ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท 

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell อย่างใกล้ชิด พร้อมติดตามการปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDPNow) ในไตรมาสที่ 4 โดย เฟดสาขา Atlanta

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.